ทำเอาแฟนๆ เซอร์ไพรส์และจับตามองกันต้นปีเลย เมื่อ เลยดูดี สตูดิโอ ดึงตัวหนุ่มฮอตจาก Super Junior อย่าง ‘อีทงเฮ’ มารับงานแสดงเต็มตัวครั้งแรกในประเทศไทย แถมยังเป็นโปรเจ็คท์พิเศษร่วมกับอเมริกาอีกด้วย งานดีน่าติดตามกันขนาดนี้ต้องไปพูดคุยถึงที่มาที่ไปกับผู้กำกับ ‘พี่เอ๋ ศุภกร เหรียญสุวรรณ’ รวมถึงความพร้อมของ ‘ทงเฮ’ กันสักหน่อยแล้วล่ะ
Q:เลยดูดี สตูดิโอ”ชักชวนศิลปินเกาหลีมาแสดงละครไทยอย่างต่อเนื่องทำไมครั้งนี้ “ทงเฮ” ถึงได้มีโอกาสมาร่วมงานในโปรเจคนี้กับทาง “เลยดูดี” แง้มให้ฟังหน่อยว่าเป็นโปรเจคเกี่ยวกับอะไร
พี่เอ๋: “จริงๆก่อนหน้าทางเลยดูดีและเอสเอ็มทรู เราก็มีการร่วมโปรเจค พอโปรเจคนี้ได้มีการพูดคุยกับทางเอสเอ็มทรู สามารถพาศิลปินของเอสเอ็มมาร่วมงานได้ไหม ทางเกาหลีก็เสนอมาเป็น “ทงเฮ” ก็เลยได้มีการพูดคุยกัน ด้วยความที่โปรเจคนี้เดินทางมานานมาแล้ว โปรเจคนี้เกิดขึ้นจากการพูดคุยกับอเมริกาว่าอยากทำโปรเจคอันนึงขึ้นมา ด้วยสเกลของโปรเจคเอาศิลปินจากเอเชียทึกประเทศมาร่วมอยู่ในซีรีส์ ซึ่งทางอ้มริกาค่อนข้างสนใจความลึกลับในประเทศไทย ในประเทศเรามีหลายอย่างที่ลึกลับ เช่น พิธีกรรม และอีกหลายๆอย่าง ซึ่งทางอ้มริกาก็มองว่า เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ถ้าเอาศิลปินจากหลายๆประเทศมาร่วมผจญภัยในไทย ก็เลยเกิดโปรเจคนี้ขึ้นมา เป็นโปรเจคที่ใหม่มากในแง่ของที่จะร่วมมือและจับมือกันในหลายประเทศ”
Q:ทำไม “พี่เอ๋” ถึงเลือก “ทงเฮ” มาร่วมในโปรเจคนี้
พี่เอ๋: “เพราะหล่อครับ ( ยิ้ม ) ถ้าคิดกันง่ายๆ เอาศิลปินเกาหลีมา ในการพูดคุยมาคุณทงเฮจะมีสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจ ถ้าคนที่เป็นแฟนคลับเขาและมองไปที่แววตาจะรู้สึกว่าเขามีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ เวลายิ้มเหมือนมีความเศร้าบางอย่างที่ซ่อน ฉะนั้นจะมีเนเจอร์บางอย่างในการเล่น นี่คือเหตุผลหลักเลยนะที่ประทับใจในตัวเขาที่เจอกัน”
Q: สำหรับ “ทงเฮ” นับว่าเป็นการลงมาจับงานแสดงเต็มตัวครั้งแรกในประเทศไทยรู้สึกยังไงบ้าง
ทงเฮ: “ผมมีความสุขมากๆ คือผมฝันมาตลอดว่าอยากมีโอกาสแสดงในประเทศไทย และเหมือนตอนนี้ฝันเป็นจริง มีความสุขมากขึ้นที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่หล่อกว่าตัวผม” ( ยิ้ม )
Q:อยากให้ “ทงเฮ” พูดถึงการเตรียมตัวสำหรับโปรเจคครั้งนี้ ว่าได้มีการเตรียมตัวอย่างไรมาบ้าง
ทงเฮ: “ตั้งแต่ผมได้บทมาและอ่านผมรู้สึกอินไปกับบท เพราะบอกได้เลยว่าชอบมาก สนุกมาก พอได้อินไปกับบทรู้สึกว่ามีเสน่ห์ ผมเลยตั้งใจซ้อมครับ ระหว่างที่มีผมมีงานในต่างประเทศ เวลาเดินทางก็จะมีบทไปด้วย และถ้าไม่เข้าใจก็มีอีเมลล์ถามเพื่ออัพเดทและเข้าใจบทมากขึ้น เมื่อวานมีโอกาสได้ซ้อมกับพี่เอ๋ รู้เลยครับว่ามีการตั้งใจเตรียมงานนี้มากๆ”
Q:ชอบอะไรในโปรเจคนี้ถึงได้ตกลงมาร่วมงานด้วย
ทงเฮ: “สิ่งแรกเลยผมชอบบทมากๆ อ่านแล้วอินมากๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ได้ยินว่าอันนี้จะเป็นผลงานที่ไทยทำในประเทศไทย รู้สึกว่าไม่มีคำว่าความลังเลเลยครับ ผมอยากทำมากๆ และเป็นโอกาสที่ดีเพราะก่อนหน้าทุกคนจะเห็นในฐานะ “ทงเฮ” วง Super Junior ครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ทำให้ทุกคนจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆของผมในบทบาทนักแสดงครับ”
Q:ได้ข่าวว่าเป็นโปรเจคที่ได้ร่วมงานกับทางประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย กดดันไหม
ทงเฮ:“ผมเป็นคนที่ไม่เครียดง่าย ครั้งนี้พออ่านบทแล้วรู้สึกกดดันมาก ถึงขั้นทานอาหารไม่ได้เลยครับ นอนก็ไม่ค่อยหลับ แต่เชื่อว่าจะทำได้ดี เพราะผมเตรียมตัวมาและตั้งใจทำครับ เมื่อวานที่ได้ทานข้าวกับพี่เอ๋ พูดคุยกันสนุกมาก แต่ผมรู้สึกว่า คิดว่าเนี่ยมานั่งทานข้าวเหรอ ต้องกลับไปอ่านบทหรือเปล่า ในสมองผมเต็มไปด้วยบทครับ ( ยิ้ม ) ผมก็เพิ่งเคยเจอตัวเองที่เป็นแบบนั้น เท่าที่รู้จักตัวเองมา ผมชอบออกกำลังกายแล้วก้กินเยอะด้วย แต่เมื่อวานไม่ใช่ผมเลยครับ ( เมื่อวานกินข้าวเอาบทไปด้วยใช่ไหม ) ผมพยายามที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับบทครับ อยากขอบคุณพี่เอ๋มากๆที่สอนผม บอกรายละเอียดและอธิบายทุกอย่าง ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น ผมรู้สึกว่าพี่เอ๋เป็นผู้กำกับที่ดีมากๆ ผมจะได้มีโอกาสเจอผู้กำกับที่ดีแบบอีกหรือเปล่าไม่รู้ครับ ทำให้ผมคิดว่าพี่เอ๋เป็นพระเอกไปเลยดีไหม” ( หัวเราะ )
Q:“ทงเฮ” อยากแนะนำสมาชิก Super Junior คนไหนให้มาลองแสดงหรือมีผลงานการแสดงในประเทศไทยไหม / เพราะอะไร
ทงเฮ:“ต้องถามพี่เอ๋ครับว่าอยากได้คนไหนครับ? ( หันไปถามพี่เอ๋ )
พี่เอ๋ : มีอยู่คนหนึ่งที่เป็นคู่จิ้นอะไรเขาป่ะ ผมจำได้มีอยู่คนหนึ่ง อยากเจอคนนั้นแหละ อึนฮยอกๆ
ทงเฮ : คนนั้นพูดภาษาไทยเก่งมาก จะบอกว่าเพื่อนคนนั้นที่เขาพูดภาษาไทยเก่งมากคือ จั๊กกะจี้ ( หัวเราะ )
Q:ทำงานในวงการมาหลายอย่างมาก ถึงวันนี้อยากให้ผู้คนมองและจดจำ “ทงเฮ” ในแบบไหน
ทงเฮ: “พอได้คำถามแบบนี้ผมก็เขิน แต่ว่าผมขออนุญาตพูดออกมาจากใจจริงของผมเลยตอนนี้ ผมอยากเป็นความฝันของคนใดคนหนึ่ง ความฝันอันนั้นอาจไม่ได้เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่มากๆแต่ก็ไม่เป็นไร แค่อยากเป็นศิลปินหรือนักแสดงหรืออะไรก็ได้ที่เป็นความฝันของคนหนึ่งได้ พอผมพูดว่าอยากเป็นความฝันของคนใดคนหนึ่ง ผมก็ต้องแบบเป็นโชว์ตัวอย่างที่ดี ผมก็จะไม่หยุดในการเรียนรู้ หรือไปค้นพบในตัวเองในด้านการแสดงบ้างหรือด้านดนตรีหรือเพลง
Q:นอกจากโปรเจคละครเรื่องนี้แล้วในปีนี้ “ทงเฮ” จะมีผลงานหรือกิจกรรมอะไรในเมืองไทยอีกบ้าง (ทั้งงานเดียวและงานกับ Super Junior)
ทงเฮ: “ผมหน้าจะมีผลงานที่สองกับพี่เอ๋หรือเปล่า ( หัวเราะ ) ผมก็จะถ่ายทำผลงานนี้ให้ดีก่อน ถ้าในอนาคตมีโอกาสแบบนี้อีกก็คือต้องขอบคุณแล้วก็รู้สึกดีมากๆ คือสำหรับผมและซูเปอร์จูเนียร์แน่นอนอยู่แล้วที่ผมชอบกลับมาประเทศไทยและรักประเทศไทยมาก แม้ว่าจะเป็นงานอะไรก็ได้ที่มีในประเทศไทย หวังว่าจะได้มีโอกาสกลับมาหาทุกคนเร็วๆนี้ครับ”
Q:มาไทยครั้งนี้ได้เตรียมภาษาไทยมาฝากแฟนๆไหม
ทงเฮ: “แน่นอนครับ ผมเป็นคนรักประเทศไทยมากๆ ภาษาไทยคือผมเรียนตลอด วันนี้เตรียมมานิดนึงครับ ( หยิบโพยที่จดขึ้นมากาง ) “ดีใจมากครับที่ได้มาประเทศไทย รอติดตามด้วยนะครับ” ( พูดไทย )
Q:ฝากให้แฟนแฟนติดตามผลงานชิ้นนี้หน่อย
ทงเฮ: “รู้สึกเป็นเกียรติมากๆที่เขาได้มีโอกาสนี้การได้มาเมืองไทย การได้มาถ่ายทำในประเทศไทยและได้โอกาสโชว์มุมใหม่ๆของผมด้วย ผมรู้สึกขอบคุณมากๆเลย และขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาสัมภาษณ์ผมในวันนี้ ผมจะตั้งใจถ่ายทำที่เตรียมกันไว้กับพี่เอ๋ จะตั้งใจมากๆเลย หวังว่าทุกคนจะติดตามและรักผลงานชิ้นนี้ด้วยครับ”
Q:“พี่เอ๋” ฝากโปรเจคนี้กับแฟนๆ
พี่เอ๋: “อยากฝากให้คอยติดตามผลงานชิ้นนี้ด้วย ผลงานชิ้นนี้มันจะไม่ใช่แค่ซีรีส์ธรรมดาอย่างเดียว คือโอเคมันก็เป็นซีรีส์แหละ แต่ความตั้งใจของโปรเจคนี้มันค่อนข้างจะเหมือนเราเอาความฝันของศิลปินแต่ละประเทศแล้วเขาก็มารวมอยู่ในประเทศเรา ถ่ายทำในประเทศเราแล้วก็เรื่องราวที่ถ่ายถอดนั้นก็มีความเป็นประเทศของเราที่เป็นฉากหลังเป็นจิตวิญญาณของเราปะปนในซีรีส์เรื่องนี้โดยที่มีศิลปินต่างๆแต่ละประเทศมาเป็นส่วนหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ผมทำในขณะที่เราถ่ายทำแต่ละคนมาเราได้ความเป็นมิตรภาพไม่ว่าจะทางที่เจอหรือ ทงเฮที่เจอกันไม่กี่ครั้งแล้วเราสัมผัสกันได้ว่าเราได้มิตรภาพจากเขากับทุกประเทศที่เข้ามา ฉะนั้นผมเชื่อว่าสิ่งที่หนึ่งที่นอกเหนือจากการแนะนำให้ดูซีรีส์ คุณจะได้ความอบอุ่นของความเป็นเอเชียด้วยกัน”
บันทึกภาพ: STARUPDATE.COM