Q. ทราบมาว่ากำลังจะมีงานภาพยนตร์เรื่องใหม่เข้าฉายเป็นแนวโรแมนติคคอมมิดี้ที่ตัวเองชอบด้วย
N. ค่ะ ภาพยนตร์เรื่อง คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ ต้องบอกว่าโดยส่วนตัวแล้วนุชเองก็ชื่นชอบหนังในแนว “รอมคอม” อยู่แล้ว พูดได้ว่าชอบหนังโรแมนติค คอมมิดี้มากๆ อย่างหนังโรแมนติคคิดว่าผู้หญิงน้อยคนที่จะไม่ชอบ นะ แต่ถ้าคอมมิดี้จะยากนิดนึง เพราะว่าชอบดูแต่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเล่นคอมมิดี้ได้ ถึงแม้ว่าบทที่นุชได้รับในหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นตัวที่เล่นในส่วนของคอมมิดี้เท่าพี่แดนหรือแพทตี้ แต่ก็ดีใจมากที่ได้มาอยู่ในหนังที่เขาเน้นคอเมดี้นะค่ะ เพราะส่วนมากที่เล่นมาก็จะเป็นดราม่าไปเลย อย่างดราม่า หนังไม่ก็หนังผีอะไรอย่างนี้ นุชว่าจริงๆ ก็ไม่ได้ใกล้กับตัวนุชมาก เพราะตัวนุชจริงๆ แล้วเป็นคนที่ชอบอะไรแบบชิลๆทำงานแบบเฮฮากับทุกคน สนุกสนาน หัวเราะ ร่าเริงอะไรอย่างนี้มากกว่า แล้วยิ่งภาพยนตร์เรื่องคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์เรื่องนี้นะค่ะมีทั้งคอเมดี้ มีโรแมนติก และเนื้อเรื่องที่ดีด้วยค่ะ เป็นหนังที่ดูแล้วจะรู้สึกอยากติดตามเรื่องราวกับคาแรคเตอร์ของตัวละครทั้ง4คนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป เชื่อว่าถ้านุชเป็นคนดูก็คงสนุกค่ะ เพราะมันมีทุกอย่างที่นุชชอบ นุชชอบหนังดูโรแมนติกอยู่แล้ว และก็อยากหัวเราะไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ทุกคนจะเข้าถึงง่าย เพราะว่าคาแร็คเตอร์พวกนี้ก็ไม่ใช่คาแร็คเตอร์แบบเว่อร์ๆ แต่เป็นคนธรรมดา เป็นคนทำงาน เป็นผู้หญิงทำงาน ผู้ชายทำงาน นุชว่าคนที่เข้าไปดูก็จะเจอชีวิตของตัวเองอยู่ในจอที่เราดูอยู่ค่ะ
Q.งั้นคงต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่าคาแรคเตอร์ของนุชในภาพยนตร์เรื่องคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ เป็นอย่างไรบ้าง รับบทเป็นใคร
N. นุชรับบทเป็น ต้นหลิว ค่ะ จะเป็นสาวสวยที่มีความมั่นอกมั่นใจ ที่หนุ่มๆชื่นชอบ และอยากมาอยู่ใกล้ๆ จะเป็นคนที่ชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่นแบรนด์เนม เป็นสาวเมืองที่ แฮปปี้กับทุกคน ไม่ค่อยคิดมาก เฟรนด์ลี่ เจอใครก็เฟรนด์ลี่หมดเลย เป็นคนที่มีเสน่ห์มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นพิธีกรรายการที่ชื่อว่า “ที่ซ่อนผี” ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับผีที่ฮอตที่สุดในขณะนี้ค่ะ
Q.เสน่ห์ความน่าสนใจของตัวละครตัวนี้
N. ผู้หญิงคนนี้ทุกคนจะบอกว่า เขามีเสน่ห์ แต่เป็นเสน่ห์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่เขาไม่ต้องพยายามเลย เป็นเสน่ห์ที่เกิดออกมาจากข้างใน ด้วยความที่เป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจ คือรู้ว่าตัวเองทำงานเก่ง เป็นมิตรกับทุกคน เป็นคาแร็คเตอร์ที่ไม่มีปัญหากับใครเลย มีเพื่อนเยอะ คุยง่าย เฟรนด์ลี่ คนส่วนใหญ่ก็จะชอบ อยากเป็นเพื่อนด้วย สำหรับนุชเองนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องสวมบทเป็นพิธีกร และได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะ คือก่อนหน้านี้นุชเองก็ไม่เคยขึ้นเวทีเป็นพิธีกร หรืออะไรเลย ไม่เคยออกรายการ อันนี้ก็คือครั้งแรก จริงๆ เลยค่ะ มันก็เหมือนกดดันนิดนึงเพราะว่า ต้องทำให้เหมือนว่าต้นหลิวเนี่ยะเขาเป็นมืออาชีพแล้ว ทั้งประเทศรักเขามาก แล้วตอนถ่ายทำทีมงานเขาก็จัดเซ็ตฉากไว้เหมือนกับเป็นการถ่ายรายการจริงๆ เลยค่ะ เขาจะมีคิวการ์ด เป็นบอร์ดที่เขียนคำให้พิธีกรพูดตัวใหญ่มาก เขียนเป็นไดอะล็อคทั้งหมดเลย ให้เราอ่านเหมือนกับพิธีกรตามรายการจริงๆเลยค่ะ ก็ชอบนะคะ สนุกดี คือนุชชอบเพราะ รู้ว่ามันไม่จริง มันเป็นการถ่ายทำสำหรับหนังน่ะค่ะ ก็สบายใจขึ้น แต่ถ้าถามว่าจะลองเป็นพิธีกรจริงๆ ไหมก็ต้องคิดก่อนนุชว่าแค่นี้โอเคแล้ว (หัวเราะ)
นอกจากนี้ต้นหลิวก็จะมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ชื่อ เพ็ญ นะคะ ซึ่งรับบทโดยแพทตี้ (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) ทั้งคู่จะชอบอะไรที่อินเทรนด์ทันสมัย ชอบแฟชั่นแบรนด์เนมเหมือนกัน เพ็ญเขาจะรอเซลล์ก่อนแล้วจะซื้อ แต่ต้นหลิวต้องซื้อตอนราคาเต็มๆ เลย ทั้งสองคนนี้จะเหมือนกันตรงที่ว่าเป็น ผู้หญิงเก่งผู้หญิงทันสมัย ทำงานเก่ง ที่ไม่เหมือนคือต้นหลิวไม่มีแฟน แต่เพ็ญมีแฟนแล้วค่ะ มีแฟนชื่อ ปกป้อง ( รับบทโดย บีม กวี ตันจรารักษ์) ซึ่งชื่อเหมาะสมกับนิสัยมาก ส่วน ชวด (รับบทโดย แดน วรเวช ดานุวงศ์) เป็นตัวละครที่แสดงโดยพี่แดน ซึ่งในเรื่องชวดหรือพี่แดนเขาได้เห็นต้นหลิวจากในทีวีในรายการ “ที่ซ่อนผี” รายการผีที่ฮอตฮิตที่สุดที่ต้นหลิวเป็นพิธีกรอยู่ แล้วชวดเขาชอบผู้หญิงคนนี้มาก ติดตามดูทุกตอนจนเป็นแฟนพันธุ์แท้รายการ และก็อยากเจออยากคุยก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ พูดแล้วก็เหมือนชมตัวเองนะคะ (หัวเราะ) แต่ชวดนะไม่กล้าจีบต้นหลิว เพราะเห็นว่าต้นหลิวอยู่ในวงการนี้อาจจะหยิ่งๆ อาจจะไม่สนใจผู้ชายแบบเค้า ชวดเค้าก็ขอให้เพ็ญมาแนะนำให้รู้จักเพราะรู้ว่าเพ็ญเป็นเพื่อนสนิทกับต้นหลิว ซึ่งตอนแรกต้นหลิวก็สงสัยว่าเฮ้ยทำไมเพื่อนถึงแนะนำให้รู้จักกับผู้ชายคนนี้ แต่ต้นหลิวเขาเป็นคนที่เฟรนด์ลี่เขาก็เปิดแบบให้รู้จักค่ะ แล้วพอมารู้จักกับชวดนะค่ะก็เห็นว่าเขาเป็นคนดีแล้วเป็นคนที่มุมมองแปลกๆ แต่เป็นเพื่อนที่ดีมาก แล้วก็ยอมมาเป็นแขกรับเชิญออกรายการของต้นหลิวด้วย เขาก็เลยสนิทกันค่ะ
Q.สำหรับบทนี้ยากมั้ยเมื่อเทียบกับงานถ่ายแบบเดินแบบ
N. หลายคนอาจจะรู้จักนุชจากวงการนางแบบมากกว่า คือจริงๆในใจก็ชอบการแสดงมาก และก็ช่วงที่บทเข้ามา แล้วนุชได้อ่านครั้งแรก ตอนนั้นนุชกำลังคิดเลยว่าแบบอยากแสดงหนัง อะไรที่ออกแนวคอมมิดี้หรืออะไรที่มันไม่ได้ดราม่าหนักมาก พอได้เห็นบทต้นหลิวก็โอเคเลย พอมีบทอันนี้เข้ามาก็ดีใจมาก อ่านเสร็จก็บอกคุณแม่ โทรบอกคุณแม่ว่านุชทำแน่นอนเพราะว่าบทมันดูน่าเล่น น่าสนุกดีค่ะ ถามว่ายากไหมนุชว่ามันใกล้ตัวกับนุชนะคะ คือไม่ใช่ตรงที่มีเสน่ห์นะ แต่ใกล้ตรงที่เป็นสาวมั่นใจ ซึ่งตัวนุชก็ทำงานตรงนี้มาตั้งแต่ อายุ 12 แล้ว เข้าวงการเป็นนางแบบ ก็มั่นใจนิดนึงค่ะ (หัวเราะ) ยิ่งเรื่องเสื้อผ้า ที่ใส่ของตัวละครในเรื่องใกล้นุชมาก นุชชอบเสื้อผ้าของกองถ่ายนี้มาก
Q.ไม่เคยร่วมงานกับแดน มาก่อนแล้วพอได้มาร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าหนังเรื่องนี้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดยแดน วรเวช
N. กับพี่แดน วรเวชนะคะ คือก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเจอกันค่ะ ไม่เคยพบเลย มาพบครั้งแรก เพราะว่าหนังเรื่องนี้ ตอนเข้าไปเวิร์คช็อป แล้วก็อ่านบท ถึงได้รู้ว่าพี่แดนเขาเขียนบทด้วย เก่งมากค่ะ นุชแค่แอ็คติ้ง นุชว่ายากแล้วอ่ะ แอ็คติ้งเหนื่อยแล้ว แต่ถ้ากำกับแล้วต้องดูบทด้วย เล่นเองด้วย นุชว่าต้องสุดๆ ไปเลย แล้วเขายังดูไม่เหนื่อยด้วยนะ ยังดูว่าเรื่อยๆ ได้อยู่ เยี่ยมค่ะ
แล้วยิ่งตอนแรกที่ได้ยินว่าผู้กำกับเป็นพี่แดนก็ตกใจเหมือนกัน เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่เขาทำหนังแล้วเป็นนักแสดงด้วยเป็นผู้กำกับด้วย นุชก็ว่าน่าสนใจตรงนี้ล่ะค่ะเลยอยากร่วมงานด้วย เพราะว่าอยากเห็นว่า เอ๊ะ มันจะเวิร์คยังไง ผู้กำกับเขาจะเล่นได้ไหม เพราะว่าเขามีงานจะยุ่งมาก แต่พี่แดนเขาก็ทำงานตั้งใจมากๆ เลยค่ะ เป็นผู้กำกับที่ละเอียด คือไม่ใช่ถ่ายหลายเทคนะคะ แต่ถ้าเห็นอะไรนิดนึงผิดๆ เขารู้เลย อาจจะเป็นเพราะอยู่ในซีนด้วยค่ะ จะเห็นว่ากล้องมันผิดไปนิดนึง เขาก็คัทเริ่มใหม่เลย นุชชอบผู้กำกับที่ให้อิสระกับนักแสดงด้วยค่ะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเป็นนักแสดงอยู่แล้วด้วย ก็คงเข้าใจว่าเราก็คงไม่ชอบผู้กำกับมายุ่งๆตลอดเวลา เขาเข้าใจนักแสดงมาก แล้ววิธีการทำงานในเรื่องนี้ของพี่แดนในฐานะผู้กำกับเขาก็ไม่ได้กำหนดอะไรมากค่ะ เขาปล่อยให้แสดงแบบเป็นตัวของตัวเองดีกว่า โดยเขาจะเลือกคนมาให้เหมาะกับบทนี้ที่สุด ที่เลือกนุชมาเล่นก็ขอบคุณมากเลยค่ะ นุชก็สบายใจมากขึ้นที่เขาเป็นผู้กำกับที่ให้อิสระทางการแสดงกับเราค่ะ
Q.แล้วการแสดงของแดนเป็นอย่างไรบ้าง
N. พี่แดนเล่นตลกมาก นุชไม่เคยเล่นเรื่องอะไรที่เป็นคอมมิดี้มาก่อน ก็เลยต้องพยายามอย่าขำๆ ต้องเป็นคาร์แร็คเตอร์นะ ต้องทำหน้ายิ้มๆ ทำหน้าเครียดๆ คนนี้ยุ่ง ทำอะไรอยู่ นิ่งๆ แบบเท่ๆ แต่ก็ขำมากหลายเทคเลยค่ะ (หัวเราะ)
Q.นอกจากจะประกบบทบาทกับแดนแล้วในเรื่องคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ ต้นหลิวจะมีเพื่อนที่สนิทมากคือเพ็ญ ซึ่งแสดงโดยแพทตี้ อังศุมาลิน ซึ่งเราต้องเล่นเป็นเพื่อนซี้กัน ร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง
N. ครั้งแรกที่เจอแพทตี้ ก็เจอกันตอนเวิร์คช้อปค่ะ ก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยเจอเลย คือพูดได้ว่านักแสดงนำทั้ง 3คนที่เราต้องแสดงด้วยในเรื่องนี้ นุชไม่เคยร่วมงานกับใครเลยค่ะ ทั้งพี่แดน พี่บีม แพทตี้ แพทตี้วันแรกที่เจอเขาก็เป็นคนน่ารักมาก และแพทตี้เองเป็นคนที่เข้ากับนุชได้ง่ายค่ะ ไม่รู้ทำไม ได้มาถ่ายไม่กี่วันก็เป็นเพื่อนกันแล้ว และนุชก็ประทับใจความสามารถของแพทตี้เหมือนกันค่ะ อย่างเช่น ตอนเข้าฉากกันซีนแรก ประทับใจมาก เป็นซีนที่อยู่ในผับแล้วก็ต้นหลิว เพ็ญ กำลังเมาสนุกกับชวดอยู่ แต่แล้วก็มีปกป้องมาตามให้กลับบ้าน แพทตี้ก็ต้องแสดงออกให้เห็นว่าต้องฝืนใจ ทำใจกลับบ้านไป นุชก็เห็นเลยว่าแพทตี้เขาแสดงไปถึงสีหน้าและแววตา เขาแอ็คติ้งดีมากค่ะ แค่วันแรกก็ชอบเลย
Q.บรรยากาศการทำงานในกองถ่ายคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์เป็นอย่างไรบ้าง
N.นุชชอบนะคะ อยู่กองถ่ายนี้สนุกทุกวันเลยค่ะ ทุกคนใจดี ทุกคนน่ารัก ช่วยนุชกับเรื่องบทด้วยเพราะว่า เป็นคนที่ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง (หัวเราะ) แต่ทุกคนก็ช่วยๆ กันดู มีเอาน้ำมาให้ หิวน้ำไหม หิวข้าวไหม เที่ยงเป๊ะ หิวไหม อะไรแบบนี้ ชอบค่ะ
Q. เป็นหนังในแนวHAPPY COMEDY ROMANTIC ช่วยยกตัวอย่างของฉากสนุกๆ ของต้นหลิวที่ชอบในหนังเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย
N. นุชชอบฉากชวดจีบต้นหลิวค่ะ คือชวดเขาเห็นต้นหลิวเป็นไอดอล แล้วพยายามจะเข้ามาใกล้ชิด แต่ดันพูดอะไรแปลกๆ ตอนที่พี่แดนเขาก็เอาบทมาให้ดู นุชก็อ่านแล้วแบบ เฮ้ย ทำไม ผู้ชายเจอผู้หญิงคนนี้ครั้งแรก ก็ทัก ว่าคุณเป็นคนที่ขนจมูกเคลียร์มาก! (หัวเราะ) คือมันแปลกน่ะค่ะ นุชก็ถามว่าขนจมูกเคลียร์มาก แปลว่าอะไร แปลว่ามีขนรึเปล่าหรือว่าไม่มีขน พี่แดน ก็บอกว่า อ๋อๆ แปลว่า ไม่มีขน แปลว่าสวย ทำให้นุชมั่นใจขึ้น ตอนแรกก็คิดว่าฉันต้องมีขน มาไว้ในจมูกรึเปล่า กังวลมากแต่ฉากนั้นก็ขำดีค่ะ ก็หวังว่าคนได้ดูตรงนี้แล้วจะขำกันทั้งโรง
Q.เคยคิดมาก่อนไหมว่า แดนซึ่งเป็นผู้กำกับด้วยเขาจะเป็นคนเขียนบทแบบนี้ขึ้นมาได้
N. ไม่เคยคิดเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าเรื่องขนจมูกมันจะมาเป็นมุกได้ ไม่คิดว่ามันจะตลกได้ ส่วนมากอะไรที่เป็นขนจมูก คนจะไม่ค่อยพูดถึงใช่ไหมค่ะ ซึ่งแปลกมากที่ผู้ชายมาทัก คือถ้าผู้ชายมาทักกันแบบนี้จริงๆ นุชคงหนีคะ (หัวเราะ) คือคงไม่อยากเจอเลย แต่อันนี้มันทำให้น่ารักได้ ทำให้เข้ากับเรื่อง เพราะพระเอกคนนี้ เขาไม่ใช่คนแปลก เขาแค่ชอบผู้หญิงคนนี้มาก เวลาเราชอบใครสักขนาดนั้นเราก็จะเพี้ยนๆ หน่อย
Q.ชีวิตจริงเคยมีหนุ่มๆ มาจีบแบบแปลกๆ บ้างไหม
N. ไม่มีนะ อาจจะมีที่เป็นผู้ชายที่เข้ามา แล้วไม่ค่อยคุย เลยยังไม่รู้ว่าเขาแปลกรึเปล่า (หัวเราะ)
Q.อย่างนี้ต้องถามแล้วละว่าหนุ่มในเสปคของนุชเป็นอย่างไร
N. ส่วนตัวจะชอบหนุ่มแบบไหน คิดไม่ออกนะ คือคนที่จะเข้ามาจีบ ส่วนมากจะเป็นคนที่รู้จักแล้ว อาจจะไม่ได้เป็นเพื่อน ไม่ได้สนิทแต่ก็คือรู้จักแล้วค่ะ ไม่ได้แปลกไม่ใช่คนแปลก บางทีก็มีแปลกๆ เข้ามานะ แต่ไม่ได้เยอะมากไม่เหมือนในหนัง ชีวิตจริงก็ไม่เคยเจอที่มาทักเรื่องขนจมูกหรืออะไรอย่างนี้ไม่เคยเจอ ส่วนมากแค่ชมว่าแบบสวยอะไรอย่างนี้
Q.คิดว่าเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่อง “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์”
N. คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ เรื่องนี้มีทั้งคอมมิดี้ มีโรแมนติก และเนื้อเรื่องที่ดีด้วยค่ะ เป็นหนังที่ดูแล้วจะรู้สึกอยากจะติดตามกับตัวละคร อยากติดตามว่าทั้งสี่คนเนี้ยะ อะไรมันจะเกิดขึ้นต่อ ถ้านุชเป็นคนดูก็คงสนุกค่ะ เพราะว่ามีทุกอย่างที่นุชชอบ นุชชอบหนังดูโรแมนติกอยู่แล้ว และก็อยากหัวเราะไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ทุกคนจะเข้าถึงง่าย เพราะว่าคาแร็คเตอร์พวกนี้ก็ไม่ใช่คาแร็คเตอร์แบบเว่อร์ๆ เป็นคนธรรมดา เป็นคนทำงาน ผู้หญิงทำงานผู้ชายทำงานนุชว่าคนที่เข้าไปดูก็จะเจอชีวิตของตัวเองอยู่ในจอที่เราดูอยู่ค่ะ
ก็ขอฝากเรื่อง “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์”ด้วยนะคะ เป็นงานที่นุชที่ชอบมาก และดีใจมากที่ได้เล่น ก็อยากให้ทุกคนติดตามกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนใคร ชอบนุช หรือชอบพี่แดน แพทตี้ หรือพี่บีม ใครก็ได้ ต้องชอบเรื่องนี้แน่เลยค่ะ มีทั้งตลก มีดราม่า มีโรแมนติค และมีอีกหลายๆ สิ่งที่วัยรุ่นกำลังชอบอยู่ค่ะ
Q.อัพเดทชีวิตและผลงานของตัวเองหน่อย
N. ก็เริ่มต้นทำงานนางแบบตั้งแต่อายุ12 ทำงานในวงการมาแล้ว 7 ปี ถึงตอนนี้นุชอายุยังน้อยอยู่ก็แค่19เอง แต่เหมือนรู้สึกได้ทำงานในวงการมาเยอะแล้ว ได้ร้องเพลง เล่นหนัง เล่นโฆษณา เล่น MV เป็นนางแบบ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นคนที่ไม่ได้ขาดชีวิตช่วงเด็กนะ ชอบอยู่ในวงการนี้มาก อยากจะอยู่อีกนาน ก็ขอให้ได้อยู่อีกนานนะค่ะ (หัวเราะ) แต่ที่จะเน้นต่อไปก็คือการแสดงก็ชอบมาก เพราะเป็นนางแบบตั้งแต่เด็กแล้ว แต่การเป็นนางแบบในเมืองไทยมันก็เป็นนางแบบอย่างเดียวไม่ได้แล้วค่ะ ต้องออกไปทำอย่างอื่นบ้างค่ะ สเต็ปต่อไปของนุชก็คือการแสดงค่ะ นุชจะขอโฟกัสตรงนี้ให้เยอะที่สุด ปีนี้นุชก็จะไปเรียนการแสดงที่เมืองนอกสักพัก (ช่วงมิ.ย.-ส.ค.) แล้วจะกลับมา ซึ่งอาจจะทำให้เราเล่นหนังดีขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกันต้องรอให้ไปเรียนก่อน แต่อยากจะโฟกัสเรื่องการแสดงนี้ให้มากที่สุดค่ะ
บันทึกภาพ: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล