การกลับมาของนักร้องหญิงเสียงทรงพลัง ขวัญใจชาวไทย “ดา เอ็นโดรฟิน” ที่ห่างหายจากการทำงานเพลงไปเกือบสองปีหลังจากหมดสัญญากับค่าย GMM GRAMMY ล่าสุดทนเสียงเรียกร้องจากแฟนเพลงไม่ไหว กลับมาเยือนบ้านหลังเก่าอันอบอุ่นอีกครั้ง พร้อมรับหน้าที่เป็น Executive Producer อย่างเต็มตัว และนี่คืออัลบั้มเเรก “DAMATIC” ในชีวิตในการทำงานกว่า 14 ปี อัลบัมที่ “ดา เอ็นโดรฟิน” เป็นผู้คิดงาน วาง Concept ควบคุมการผลิต ลงมือปั้นด้วยตัวเอง
“ดา เอ็นโดรฟิน” กล่าวว่า “DAMATIC คือตัวตนของดาถ่ายทอดหลายๆ อารมณ์ ความรู้สึก การเเสดงออกต่างๆของผู้หญิง โดยใส่มุมมอง ทัศนคติ เเละวิธีการร้องของดาเข้าไป ถ่ายทอดไปสู่ เเฟนเพลง กับ 5 Single , 5 เเนวดนตรี , 5 Mood , 5 Character พร้อมเเขกรับเชิญพิเศษที่มา Collaboration ด้วยกัน เป็นครั้งเเรก เเละ ที่เเรก กับ THE PAKINSON , TWOPEE , SYPS คะ
ซิงเกิ้ล 1 ฉันยังอยู่
เพลงนี้เกิดจากดากับวงเล่นเเจมในห้องซ้อมกันเเละได้เมโลดี้มา ตอนเขียนเนื้อก็คิดถึงพี่หมู มูซู เคยอยู่ค่าย White music ด้วยกัน ก็เลยชวนมาช่วยเเต่งเนื้อร้อง เเต่งเนื้อกันที่บ้านดาเอง มีการปรับเนื้อหรือความหมายให้เข้ากับตัวตนของดา สำหรับดนตรี เป็นการอัดเครื่องดนตรีสด จุดเด่นของดนตรีมีการดีไซน์ซาวด์ดนตรีให้เป็นสไตล์ยุค 90s ซึ่งเป็นเพลงอีกยุคที่ดาชื่นชอบ ดาเชื่อว่าทุกคนต้องการกำลังใจ ดาเองก็ต้องการกำลังใจ ในช่วงที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของดาเช่นกัน เเละอยากส่งเพลงนี้ไปยังเเฟนเพลงของดา ว่าเราจะไม่ทอดทิ้งกัน เเละเรายังอยู่ตรงนี้
ซิงเกิ้ล 2 คำอำลา (Have To Say Good Bye)
อีกครั้งที่ได้ร่วมงานกับ พี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ เริ่มจากดา ทำเมโลดี้เพลงนี้ กับเพื่อนๆ ในวง เเละมีฮัมของท่อนฮุคมา ซึ่งเป็นเพลงช้าที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มาถึงทางตัน โดยผ่านมุมมองของดาคือ ถึงเเม้ว่าการเลิกรากันจะทำให้เราความเสียใจขนาดไหน เราก็ต้องลุกขึ้นต่อ ตอนได้ทำนองมาก็เลยชวนพี่หนึ่งมาช่วยเขียนเนื้อให้ รวมถึงพี่หนึ่งเข้ามาช่วยฟังในตอนอัดร้องเพลงนี้ด้วย
ซิงเกิ้ล 3 ระหว่างเรา…คืออะไร , Da Endorphine x The Parkinson
โจทย์ของอัลบั้มนี้คือสามารถร่วมงานกับใครก็ได้ ดานึกถึงวง The Parkinson เพราะรู้สึกว่าดา เเละ The Parkinson มีเคมีใกล้กัน เพลงของเราไปด้วยกันได้ โดยเฉพาะเพลงช้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ ดาชอบร้องเพลงรักที่ผู้ชายเขียนเนื้อ เพราะว่ามีความพอดีกับตัวตนดา เเละอยากได้ลายมือเเบบวงพาร์กินสัน เลยยกเพลงนี้ให้กานต์คิดเเละเขียนออกมา โดยดาเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเพราะต้องร้องด้วยกัน เพลงนี้เหมือนเป็นเพลงที่เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์เเบบคลุมเครือ ซึ่งได้ไอเดียต่อยอดมาจากเพลง ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกับเเบบไหน
ซิงเกิ้ล 4 You’ll Be Mine , Da Endorphine x SYPS
เพลงนี้ดากับอเล็กซ์เคยเล่นคีบอร์ดเเจมกัน เเละได้คอรัสเพลงนี้มาเเละเก็บไว้ ในทางคอร์ดคิดว่านี่น่าจะเป็นเพลงรักที่อบอุ่น โรแมนติกมากเพลงหนึ่ง พอมีโปรเจกต์นี้ ก็อยากชวนอเล็กซ์มาจอย ซึ่งเป็นการดูเอทกันครั้งเเรก อเล็กซ์เป็นคนเเต่งทั้งหมดเเละเรื่องราวในเพลงก็มาจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จึงเป็นเพลงที่พิเศษเเละมีความหมายมาก
ซิงเกิ้ล 5 Revolution , Da Endorphine x Twopee
โจทย์เพลงนี้มาจากนักร้องที่ดาอยากร่วมงานด้วย คือ โต้ง Twopee จริงๆดากับโต้งรู้จักกันมานานเเล้วตั้งเเต่ตอนได้ไปร่วมงานกับTitanium ซึ่งโต้งอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เพลงนี้เป็นการร่วมมือกันหลายคน อเล็กซ์ทำทำนองเเละดนตรีให้ ดากับพี่หมูช่วยกันเเต่งเนื้อ ได้โต้งมาเเต่งเเละร้องท่อน Rap ดาอยากให้เพลงมีพลัง มีฟิลของการ Battle กัน เป็นเพลงที่บิ้วให้การลุกขึ้นต่อสู่ในสิ่งที่เราต้องการ ไม่ยอมทำในสิ่งที่ฝืนตัวเรา ออกมาปฎิวัติเพื่อตัวเอง เป็นเพลงที่มีพลังที่สุดในอัลบั้มนี้
แฟนเพลงสามารถติดตามอัลบั้ม “DAMATIC” 5 Single , 5 เเนวดนตรี , 5 Mood , 5 Character พร้อมเเขกรับเชิญพิเศษที่มา Collaboration ด้วยกัน เป็นครั้งเเรก เเละ ที่เเรก กับ THE PAKINSON , TWOPEE , SYPS ในชีวิตในการทำงานกว่า 14 ปี อัลบัมที่ “ดา เอ็นโดรฟิน” ดูได้ที่เดียวในโลก! ทาง YOUTUBE CHANNEL : GMM GRAMMYOFFICIAL
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์