ทุกคนเตรียมความพร้อมที่จะมาระลึกชาติเข้าไปในอดีตกับละคร “สัตยาธิษฐาน” ละครพีเรียดย้อนยุค ของผู้จัดฝีมือขั้นเทพอย่าง “ไก่-วรายุฑ มิลินจินดา” และผู้กำกับมือฉมัง “สำรวย รักชาติ” แห่งค่ายบริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด ได้คว้านางเอกหน้าน่ารักอย่าง “เดียร์น่า ฟลีโป” ภาคอดีตรับบทเป็น “คุณนิ่ม” เด็กสาวที่กำพร้าแม่มาตั้งแต่เกิด ในวัยเด็กเที่ยวเล่นอยู่กับบ่าวไพร่ จนวันหนึ่งถูกส่งตัวเข้าไปเรียนรู้ธรรมเนียมปฎิบัติในวัง จึงทำให้โตขึ้น เป็นกุลสตรีไทยเต็มตัว เรียบร้อย อ่อนหวาน ภาคปัจจุบันรับบทเป็น “รสวัลค์” เป็นผู้หญิงธรรมดาที่ต้องเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย และทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านขายต้นไม้พยายามหาเงินมารักษามารดา ประกบคู่พระเอกหนุ่มสุดเท่อย่าง “สน-ยุกต์ ส่งไพศาล” ภาคอดีตรับบทเป็น “ทด” ชายหนุ่มที่ถูกขายมาเป็นทาสตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้แม่เอาเงินไปไถ่ศพพ่อที่ถูกฆ่าตายในบ่อน ชีวิตที่ไม่อาจเลือกได้ ภาคปัจจุบันรับบทเป็น “ภาคิน” มีดวงจิตที่สามารถย้อนระลึกกลับไปในอดีตชาติได้ และเขาใช้มันเพื่อค้นหาหญิงสาวที่อยู่ในความฝันเขามาโดยตลอด ซึ่งเป็นการประกบคู่กันครั้งแรกเรียกได้ว่าเป็นคู่พระนางเคมีใหม่อีกด้วย การร่วมงานกันครั้งแรกจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องราวของความรักข้ามภพชาติจะเข้มข้นแค่ไหน ด้านนางเอกสาว “เดียร์น่า ฟลีโป” ให้สัมภาษณ์ว่า
“เรื่องนี้ต้องเล่นเป็นสองตัวละคร ในปัจจุบันเดียร์ก็รับบทเป็นรสวัลค์ ส่วนในอดีตก็จะเป็นคุณนิ่มค่ะ ในอดีตคุณนิ่มก็ตรงข้ามกับพี่สนเลยค่ะ เป็นเจ้านายนายคน เป็นแบบว่าคุณพ่อคุณแม่ตามใจมาก ซึ่งตอนเด็กก็จะเอาแต่ใจมากจะดื้อแกล้งคนอื่นตีคนอื่น จนถูกส่งเข้าไปในวังดัดนิสัยพอออกมาก็กลายเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย อ่อนหวาน เริ่มรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ก็เป็นความรักต่างชนชั้นค่ะ ก็รักทดแต่ว่าไม่ได้สมหวังด้วยความที่ต่างศักดิ์กัน เจ้าคุณพ่อก็ไม่ยอม ส่วนในปัจจุบันก็คือ รสวัลค์ ก็ตรงกันข้ามเลยค่ะ กลายเป็นคนจน ได้มาขายต้นไม้ และอาศัยอยู่กับคุณแม่สองคน ซึ่งคุณแม่ก็ป่วยด้วยเราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เงินมารักษาคุณแม่ จนมาเจอกับภาคิน คนที่เรารู้สึกว่าเจอหน้าทีไรก็รู้สึกแบบบอกไม่ถูกแต่รู้สึกว่าเกลียด และทำไมถึงเกลียดก็ไม่รู้ เกิดจากอะไรก็ไม่รู้ ก็จะเป็นปมในใจตลอด ซึ่งต้องมาค่อยแก้ไขกันในปัจจุบันค่ะ ในครั้งแรกที่มาเจอพี่สนก็คิดว่าพี่สนเป็นคนนิ่งๆ เราก็มีความเกรงใจเหมือนกัน คือเรามาเจอกันด้วยความที่เราไม่รู้จักกันเลย ไม่เคย workshop มาวันแรกก็ถ่ายเข้าด้วยกันเลย ก็เกร็งค่ะ แต่พอไปหลายๆคิวก็รู้สึกว่าเขาก้น่ารักดีค่ะ เป็นคนแบบที่มีความเป็นผู้ชายมากๆ พอตอนที่ได้เล่นในอดีตด้วยกันก็ยิ่งสนุกค่ะได้แกล้งกันมากขึ้น ตัวละครมันเยอะขึ้นก้เลยทำให้เราสนิทกันมากขึ้นค่ะ”
ส่วนด้านพระเอกหนุ่ม “สน-ยุกต์ ส่งไพศาล” ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรับบทเป็นทด และภาคิน ตัวทดเป็นทาสในสมัยราชการที่ 4-5 ก็จะเป็นคนที่ตรง เป็นคนซื่อมีความเจียมตัวกับเจ้านายทดก็จะรักเจ้านายมากนะครับ และต้องรู้สึกว่าเราต่ำต้อย ส่วนตัวภาคินในภาคปัจจุบันผมเล่นเป็นคนรวยมาก และเอาแต่ใจซึ่งจะตรงข้ามกับอดีตเลย ก็คือในชาติที่แล้วเราอธิษฐานขอให้เราเกิดมาเพียบพร้อม รวย และไม่แพ้ใคร ก็ได้อย่างนั้นครับ ซึ่งในการร่วมงานกับน้องเดียร์น่า ผมก็รู้สึกเกร็งๆนิดนึงครับ ก็คือตอนแรกก็เขินๆนิดนึง แต่ด้วยความที่น้องเขา professional มาก ผมก็เลยรู้สึกว่าเราสามารถจูนกับติดได้เร็ว และเล่นเป็นธรรมชาติได้ครับ”
นอกจากนี้ยังมีนักแสดงมากฝีมืออีกมากมายที่มาร่วมสร้างความเข้มข้น และความเรียลให้กับละครละครพีเรียดย้อนยุคเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น ลิตา-คาลิยา , ตุ้ย-เกียรติกมล, โก-โกสินทร์, แพร์-รัชนี, ปุ๊-มนตรี, โดนัท-ณัฐชยา, หมอก้อง-สรวิชญ์ ฯลฯ ซึ่งแค่เห็นรายชื่อนักแสดงก็การันตีเลยว่าเรื่องนี้ต้องเข้มข้น จัดใหญ่ จัดเต็ม อย่างแน่นอน
สำหรับเรื่อง “สัตยาธิษฐาน” บทประพันธ์โดย น้ำหนึ่ง และบทโทรทัศน์โดย ศัลยา เป็นละครพีเรียดย้อนยุค เรื่องราวเริ่มจากความฝันประหลาดของ ภาคิน ที่ตอนเด็กภาคินตกใจตื่นกลางดึกนับครั้งไม่ถ้วน จนมาถึงตอนโตความฝันอันประหลาดเหล่านั้นก็ไม่เคยจางไปเลย มีแต่จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นทุกทีประหนึ่งว่าเกิดขึ้นจริงๆ ภาคิน เป็นนักออกแบบอัญมณีหนุ่มหล่อจบนอก และเธอ รสวัลย์ หญิงสาวที่ไม่เคยชอบหน้าภาคินเลย และไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่อยู่ในความฝันของภาคินตลอดมา ซึ่งการพบกันครั้งแรกท่ามกลางสี่แยกไฟแดงทำให้ชีวิตของทั้งคู่เปลี่ยนไปนับจากนั้น ภาคินแน่ใจว่าเขาเคยพบเธอมาก่อน นั่นคงเป็นชาติอดีตที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
สัตยาธิษฐานด้วยดวงจิตตั้งมั่นนั้น จึงเป็นสิ่งที่ผูกพันความรักของคนหนึ่งคนไว้ข้ามภพข้ามชาติ เพื่อจะมาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ภาคิน จะสามารถระลึกชาติเพื่อให้ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์อดีต และแก้ไขมันได้หรือไม่ ภาคินกับรสวัลย์จะลงเอยกันอย่างไร สามารถติดตามชมใน “สัตยาธิษฐาน” ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 – 22.35 น. เริ่มตอนแรกวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ทางช่อง 3 และช่อง 33 หรือทาง Application Ch3 Thailand
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์