มีงานแสดงออนแอร์ให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเสร็จงานปุ๊บเป็นอันรู้กันว่า น้ำ – รพีภัทร เอกพันธ์กุล นักแสดงหนุ่มจะดิ่งกลับบ้านที่นครนายกทันที กลับไปใช้ชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมกับไก่ชน และควายเผือกราคาหลักล้าน ล่าสุดหนุ่มน้ำมาร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษา ของ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ใน โครงการคิดเพื่อน้อง…บ่มเพาะลูกไม้ใต้ต้น ปีที่ 3 ภายใต้หัวข้อ ตลาดชุมชนสีเขียวที่ฉัน “รักษ์” ให้เยาวชนไทยได้สะท้อนความคิด มุมมองเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมที่สามารถลงมือทำได้จริง เพื่อชิงทุนการศึกษา และยังร่วมทำกิจกรรม “แยกขยะ แลกสุข” ชวนพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด นำขยะมาแยก เพื่อแลกสุขรับกระเป๋าผ้าเป็นที่ระลึกกลับบ้าน

งานนี้ น้ำ รพีภัทร แสดงความยินดีกับน้องๆ ที่ได้รับทุนการศึกษาว่า “ยินดีกับน้องๆ ที่ได้รับทุนการศึกษาจากธนาคารไทยเครดิตฯ แม้ว่าองค์กรจะเกี่ยวกับการเงิน แต่ยังใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และต้องการปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนี้ให้แก่เยาวชน เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งที่ให้เยาวชนได้รักในสิ่งแวดล้อม และรักในชุมชนของตัวเอง จึงอยากให้น้องๆ ที่เขียนเรียงความเข้าประกวด ได้นำแนวคิดที่ตัวเองเขียนไปใช้ในชีวิตจริง เพราะน้องๆ คือคนรุ่นต่อไปที่จะต้องอยู่กับโลกนี้ไปอีกนาน ต้องร่วมมือกันทำให้โลกใบนี้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและน่าอยู่ต่อไปให้กับลูกหลานของพวกเรา เพราะผมมองว่าสิ่งแวดล้อมก็คือชีวิตของเราครับ คือ อากาศ น้ำ ป่าไม้ อาหาร ทุกอย่างคือสิ่งที่ทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ในทุกวัน ถ้าเราไม่ดูแลรักษาอะไรสักอย่าง มันจะส่งผลกระทบต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างแน่นอน เป็นวัฏจักรที่พึ่งพาหมุนเวียนกันอยู่เช่นนี้

เช่นเดียวกับหัวข้อของการประกวด ตลาดชุมชนสีเขียวที่ฉัน “รักษ์” ผมมองว่าตอนนี้ตลาดหลายๆ แห่ง ตื่นตัวในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ต้องการให้ตลาดเป็นตลาดสีเขียว มีการลดปริมาณขยะ และรักษาความสะอาด ผมมองว่านอกเหนือการจัดการบริหารตลาดที่ดีแล้ว ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับตลาด เพราะเหมือนเป็นหน้าเป็นตาทั้งเจ้าของตลาดเอง หรือแม่ค้าที่ขายของในตลาด เพราะเมื่อตลาดสะอาดจะทำให้ลูกค้าอยากกลับมาเดิน มาซื้อของที่ตลาดอีก”

หนุ่มน้ำยังเล่าถึงวิถีการเป็นเกษตรกร และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของตัวเองที่บ้านนครนายกว่า “นครนายกบ้านของผม ผมทำในรูปแบบฟาร์ม มีเลี้ยงไก่ชน เลี้ยงควาย ทำบ่อปลา ปลูกต้นไม้ เราทำแบบธรรมชาติหมด ไม่พึ่งสารเคมี ใช้พื้นที่ไม่มาก แต่สร้างรายได้ เช่นมูลจากสัตว์ก็นำมาทำปุ๋ยใส่ต้นไม้ ใส่พืชผลที่เป็นอาหาร ได้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ปลอดภัยเพราะไม่มีสารเคมีเจือปน หรือแม้กระทั่งเศษอาหาร เศษผัก ผมจะโยนให้ไก่มาจิกกิน

ที่กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ “ เพราะผมอยากให้ลูกๆ ได้รู้จักวิถีชีวิตพ่อของเขาที่โตมาแบบนี้ตั้งแต่พ่อเป็นเด็ก ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ได้เรียนรู้ธรรมชาติ ช่วยเหลือธรรมชาติ ”

แม้จะกลับไปอยู่ที่นครนายกกลายเป็นหนุ่มหล่อหัวใจรักสิ่งแวดล้อม แต่ผลงานในวงการบันเทิงหนุ่มน้ำยังไม่ทิ้งแฟนละครไปไหน น้ำเผยถึงผลงานเรื่องต่อไปว่า “กำลังเตรียมเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ครับ “ฟ้ามีตะวัน” จะเริ่มถ่ายทำในปีหน้า โดยล่าสุดเพิ่งฟิตติ้งกันไป บทที่ได้รับเป็นบทร้าย แต่ขออุ๊บไว้ก่อน แต่จากกระแสละคร มธุรสโลกันต์ที่เพิ่งจบไป กับบทบาทเสือผจง กระแสดีมากครับ แม้ว่าบทเสือผจงจะร้ายสุดทางในทุกด้านมืด แต่แฟนๆ ละครที่พบเจอก็ยังเข้ามาทักทายเรียกเสือผจงอยู่”

แต่หากคิดถึงรอชมละครหนุ่มน้ำไม่ไหว แฟนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของหนุ่มน้ำได้ทางเฟซบุ้กและ ยูทูปที่ Nam Rapeepat Channel รับรองว่าจะได้พบกับไลฟ์สไตล์มันๆ ความสนุกสนานในแบบสไตล์หนุ่มลูกทุ่งในแบบน้ำ – รพีภัทร อย่างแน่นอน