ห้าหนุ่มอัลเทอร์เนทีฟร็อคจากเมืองเซาเทิร์นออนซีแห่งเกาะอังกฤษ “Nothing But Thieves” ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “Real Love Song”
หลังจากที่เพลงของพวกเขาเกาะอยู่ในเพลลิสต์ของช่อง Radio 1 ยาวนานถึงแปดสัปดาห์ เพลง “Is Everybody Going Crazy?” ซึ่งถือว่าเป็นแทร็คที่ยาวที่สุดในเพลลิสต์กลายเป็นเหนึ่งในพลงฮิตที่สุดของพวกเขา ด้วยยอดการฟังมากกว่า 10 ล้านครั้งทั่วโลก ตอกย้ำความแรงของการกลับมาของวงได้เป็นอย่างดี ด้วยทำนองเพลงร็อคและเนื้อเพลงที่กล่าวถึงด้านมืดของจิตใจคน ความขัดแย้งแตกแยก หลงลืมซึ่งอารยธรรมจนทำให้รู้สึกอยากหนีหายไปจากความจริง เกี่ยวโยงต่อสถานการณ์ความไม่สงบของโลกในตอนนี้
หากพูดถึงเพลง “Real Love Song” ที่มีเนื้อหาเพลงเหมือนกับชื่อเพลง โปรดิวซ์โดย “Mike Crossey” (ผู้เคยร่วมงานกับ The 1975, Arctic Monkeys และ Wolf Alice) กล่าวถึงความรักที่แท้จริงและไม่หอมหวานเหมือนที่เคยวาดฝัน พร้อมกับพูดถึงประสบการณ์ที่เคยเจ็บปวดจากความรักในอดีต ด้วยท่อนฮุค “I’ve got a thing about you and it won’t go away” บทเพลงเป็นเหมือนคำสดุดีที่ยิ่งใหญ่ ถูกถ่ายทอดด้วยน้ำเสียงที่ถึงแม้จะเจ็บปวดหากแต่ยังยินดีที่จะรักของ Conor ฟร้อนท์แมนของวง
“พวกเราเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อที่กัวลาลัมเปอร์ถึงการไม่แต่งเพลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความรัก พวกเราแค่ไม่ค่อยนึกถึงมันมาก่อนน่ะครับ คิดว่าเพลงพวกนั้นถูกแต่งขึ้นและสุดท้ายก็ต้องตายจากไปเนื่องจากกล่าวถึงความรักเพียงตื้นเขิน ส่วนใหญ่มักจะเป็นความรักในอุดมคติเหมือนในหนังฮอลลีวูด Real Love Song จึงเป็นเพลงเกี่ยวกับความรักจากมุมมองที่เกิดขึ้นจริง ด้านมืดของความรัก ความเจ็บปวด รักที่ไม่สมหวัง และการไม่เคยได้รักกลับมา ขอบคุณผู้สัมภาษณ์พวกเราที่มาเลเซียนะครับหากไม่มีคุณเพลงนี้คงไม่เกิดขึ้น”
“Real Love Song” และ “Is Everybody Going Crazy?” คือเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเขา หลังจากมินิอัลบั้มในปี 2018 หรือ “What Did You Think When You Made Me This Way” และอัลบั้มเต็มจากปี 2017 หรือ “Broken Machine” ที่เคยทะยานขึ้นสู่อันดับสองจาก UK album chart มาแล้ว นอกจากนั้น ยังมีเดบิวต์อัลบั้มที่มีชื่อเดียวกับวง “Nothing But Thieves” พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับแอบกระซิบบอกว่า “Moral Panic” ซึ่งเป็นชื่ออัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขา จะปล่อยออกมาให้ฟังพร้อมกันในวันที่ 23 ตุลาคมนี้
สองสามปีที่ผ่านมานับว่าเป็นการเดินทางครั้งสำคัญของ “Nothing But Thieves” พวกเขามียอดขายสูงสุดถึง 700,000 อัลบั้ม และมียอดการฟังมากกว่า 750 ล้านครั้ง ด้วยทำนองเพลงร็อคที่ทรงพลัง ทำให้พวกเขามีแฟนเพลงมากมายจากทั่วทุกมุมโลก จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในวงร็อคที่ดีที่สุด สามารถจำหน่ายตั๋วหมดอย่างรวดเร็วด้วยยอด 150,000 ใบจากแคมเปญอัลบั้มล่าสุด รวมไปถึงการเข้าร่วมเป็นเฮดไลน์ในคอนเสิร์ตครั้งสำคัญที่ London’s Alexandra Palace ทำให้เวิลด์ทัวร์ของพวกเขาหรือ “Broken Machine” ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆและประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย
พวกเขาได้เข้าร่วมแสดงสดผ่านรายการโทรทัศน์ของอเมริกาหลากหลายรายการ เช่นรายการของ James Corden และ Jimmy Kimmel หลังจากประสบความสำเร็จมากมายจากเดบิวต์อัลบั้มในปี 2015 จนสามารถทะยานขึ้นติดอันดับอัลบั้มขายดีได้จากทั้งชาร์ตอังกฤษและอเมริกา นอกจากนั้น ยังมีการแสดงที่ประเทศโปแลนด์และเมืองอัมสเตอร์ดัมในสนามกีฬาที่สามารถจุแฟนๆได้กว่า 6,000 ชีวิต หลังจากปล่อยเดบิวต์ซิงเกิ้ลในคอนเสิร์ต BRITs/War Child ที่จัดแสดงที่ Tufnell Park Dome ทำให้พวกเขากลายเป็นศิลปินเพลงร็อคที่กำลังจะมีเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ เริ่มต้นที่ Moscow Adrenaline Stadium ที่สามารถจุแฟนเพลงได้ถึง 6,500 คน แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ทัวร์ต้องถูกเลื่อนไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ในช่วงล็อคดาวน์ที่ผ่านมานี้ “Nothing But Thieves” ได้จัดรายการสดผ่านช่อง YouTube ของวงเพื่อให้แฟนๆคลายความคิดถึง โดยจัดการแสดงอย่างเป็นกันเองใน Solitude Sessions และอีกโชว์สุดพิเศษจาก Conor ใน Sun Sessions นอกจากนั้น พวกเขายังปล่อยวิดีโอเพลง “Sorry” ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งวิดีโอเพลงนี้ได้แฟนๆกว่า 150 วิดีโอมาช่วยร้องและเล่นดนตรีไปพร้อมๆกัน
“Nothing But Thieves” ประกอบไปด้วย “Conor Mason” (ร้องนำ, กีต้าร์), “Joe Langridge-Brown” (กีต้าร์), “Dominic Craik” (กีต้าร์, คีย์บอร์ด), “Philip Blake”(เบส) และ James Price (กลอง)
ฟังพร้อมกันได้แล้ววันนี้ ที่นี่
ติดตาม Nothing But Thieves
Instagram | Facebook | Twitter
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์