“ไทเท่” บทเพลงใหม่ของ TaitosmitH (ไททศมิตร) ที่ชวนทุกคนหันมาภูมิใจความเป็นไทยในแบบฉบับของตน เท่ในสไตล์ไทย ๆ เพราะทุกความเป็น “ไท” ต่างก็มีเสน่ห์ในตัวเอง เพลงนี้เต็มไปด้วยการสร้างสรรค์มากมายตั้งแต่การผสมผสานดนตรีหลากหลายแนวไปจนถึงการถ่ายทอดเสียงร้องผ่านศิลปินต่างวัยในสไตล์ที่ต่างกัน แต่กลับอยู่ในเพลงเดียวกันได้อย่างมีเสน่ห์ บทเพลงเพื่อชีวิตในกลิ่นอายใหม่นี้ยังได้นักแหล่ระดับบรมครูของไทยอย่าง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ มาร่วมสร้างสีสันความ “เท่” ร่วมกับคนรุ่นใหม่ในครั้งนี้ด้วยเพื่อร่วมสื่อสารว่าถึงต่างวัยแต่ก็เป็น “ไท” ได้ด้วยกัน ที่สำคัญบทเพลงนี้ยังถือเป็นเพลงสุดท้ายของพ่อไวพจน์ที่ฝากเสียงแหล่ไว้ก่อนจากโลกใบนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
ไทเท่ – บทเพลงที่ถ่ายทอดมาจากความอึดอัดและอัดอั้นของการอยากแสดงความภาคภูมิใจในความเป็นไทยตามแนวทางของคนรุ่นใหม่ให้โลกรับรู้ รวมถึงอยากเป็นเสมือนกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่ที่สื่อสารกับผู้ใหญ่ว่าด้วยบริบทในยุคที่ต่างกันการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในความเป็นไทยอาจมีรูปแบบและวิธีที่ต่างกันไปบ้างแต่พวกเราก็ภูมิใจในความเป็นไทยไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังอยากตอกย้ำความเป็นสายเลือดไทยที่แท้จริงให้หนักแน่นยิ่งขึ้นผ่านการใช้คำว่า “ไท” แทนคำว่า “ไทย” ในบทเพลงนี้ เพื่อสื่อถึงความหมายสองมิตินั่นคือความเป็นชนชาติที่เรารัก และความเป็นอิสระในวิถีของตัวเองที่มีคุณค่าเช่นกัน
หากย้อนไปถึงจุดกำเนิดของเพลง จ๋าย-อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี (นักร้องนำ) ได้เป็นคนเริ่มต้นคิดดนตรีนำซึ่งเป็นไลน์ของการริฟท์กีตาร์ทิ้งไว้ แล้วภายหลังมีการนำอินโทรนี้มาพัฒนาต่อให้เป็นแนวดนตรีแบบไม่มีการตีกรอบรวมถึงไม่ยึดติดในแนวดั้งเดิมของวง เพื่อต้องการจะสร้างอะไรแปลกใหม่ขึ้นมาในระดับที่สามารถใช้คำว่า “เท่” กับบทเพลงนี้ได้จริง ๆ การสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัดนี้เริ่มตั้งแต่การแต่งทำนองดนตรีที่มีไอเดียนำเอาเครื่องดนตรีไทยหลากหลายชิ้นมาบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีสมัยใหม่เพื่อสร้างมิติของเสียงเพลงให้น่าสนใจ โดยได้มือเบสฝีมือดีอย่าง เอ๋ย-ศิลปกร มณีเนตร (มือเบสของ หนุ่ม กะลา) เข้ามาช่วยผสานไลน์กีตาร์ของ มีน-ปัณณสิทธิ์ สุขโหตุ (กีต้าร์ โซโล่) เพื่อคลอเสน่ห์กลิ่นอายสไตล์ร็อกหนักแน่นผสานเข้าไปในเพลงอย่างมีพลัง พร้อมแทรกลูกเล่นแนวดนตรีฮิปฮอปเข้าไปเพื่อทำให้กลิ่นอายดนตรีมีสีสันสนุกสนานยิ่งขึ้น ทำให้ได้บทเพลงแปลกใหม่ฉีกไปจากสไตล์เดิมที่วงเคยทำมา
ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างสรรค์ที่พิเศษสุดสำหรับบทเพลงนี้ก็คือการได้รับเกียรติจากสุดยอดบรมครูวงการเพลงไทยอย่าง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ มาร่วมแหล่สไตล์ไทยจนทำให้เกิดเคมีทางดนตรีใหม่ ๆ ที่มีเสน่ห์ขึ้นมา ทั้งยังสามารถสื่อสารถึงความภาคภูมิใจในความเป็น “ไท” ของคนต่างรุ่นในแบบที่ต่างกันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นับเป็นความแตกต่างที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและมีพลังทีเดียว “วงเรารู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่ได้ศิลปินระดับตำนานอย่าง พ่อไวพจน์ มาร่วมแหล่ให้ในเพลงนี้ด้วย มันเป็นเหมือนการนำเอาความแตกต่างมาผสมกันแต่กลับอยู่ด้วยกันได้ แล้วก็มีเสน่ห์ด้วย ที่สำคัญทั้งสองสไตล์สื่อสารถึงความภูมิใจในการเป็นไทยได้เท่ทั้งคู่ มันเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจมาก ๆ แล้วการได้ร่วมงานกับพ่อไวพจน์ครั้งนี้เราเชื่อว่ามันคือโชคชะตา เพราะพ่อไม่เคยร้องร่วมกับใครแบบจริงจังมาก่อน ไม่เคยฟีทกับศิลปินยุคใหม่ในลักษณะนี้ แถมยังตอบรับพวกเราทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักวงเรามาก่อนด้วย เรียกได้ว่าพ่อไวพจน์เป็นคนเข้ามาเติมเต็มให้บทเพลงนี้สมบูรณ์อย่างแท้จริง” วงไททศมิตร กล่าวถึงการได้รับเกียรติจากศิลปินระดับตำนานในครั้งนี้
เป็นที่น่าเสียดายว่าในวันนี้พ่อไวพจน์ได้จากพวกเราไปอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ถึงท่านจะไม่ได้มีโอกาสฟังเพลงสุดท้ายที่ท่านได้ร่วมร้องเอาไว้แต่บทเพลงนี้จะกลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของวงการดนตรีไทยอย่างแน่นอน และเป็นอีกตำนานของการสื่อสารความภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่ทรงพลังซึ่งหลอมรวมกันจากคนต่างวัย ต่างยุค ต่างสมัย ที่ต่างก็มีความรักอิสระในการสร้างสรรค์ตามแบบฉบับของตัวเอง “เพลงนี้ถ่ายทอดจากเสียงของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่มีมุมมองในความเป็นไทยที่ต่างกัน แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ เคารพในความแตกต่าง เชื่อใจกัน แล้วก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน อีกมุมหนึ่งพวกเราอยากสะท้อนภาพฝันในอนาคต ในวันที่คนต่างวัยเข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับในความต่างของกันและกัน และภูมิใจในความเป็นไทยร่วมกัน หวังว่าสักวันมันจะมาถึง น่าเสียดายที่วันนี้พ่อไวพจน์ไม่ได้อยู่ทันฟังเพลงนี้กับพวกเรา ไม่ได้ร่วมเฝ้ามองว่าสังคมอุดมคติที่พวกเราวาดไว้มันจะเกิดขึ้นได้จริงในสักวัน แต่พวกเราอยากจะบอกว่าเราภูมิใจมาก ๆ ที่ได้ร่วมร้องเพลงกับพ่อครั้งนี้ วงไททศมิตรอยากขออุทิศงานชิ้นสุดท้ายของพ่อนี้ให้เป็นตัวแทนเชื่อมความต่างวัยของสังคม พวกเราขอให้พ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี มองดูคนรุ่นหลังเติบโต
อยู่ข้างบนสวรรค์ และพวกเราอยากขอบคุณพ่อที่ทำให้เราเห็นว่าการเป็นศิลปินนั้นต้องอุทิศร่างกาย ชีวิต จิตใจ ให้กับศิลปะที่ตนรักขนาดไหน” วงไททศมิตร กล่าวเสริมด้วยรักและอาลัย
TaitosmitH (ไททศมิตร) วงจากค่าย Gene Lab มีสมาชิก 6 คน ได้แก่ จ๋าย-อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี (ร้องนำ),โมส-ตฤณสิษฐ์ สิริพิชญาศานต์ (ร้องนำ), เจ-ธนกฤต สองเมือง (คีย์บอร์ด), มีน-ปัณณสิทธิ์ สุขโหตุ (กีต้าร์ โซโล่), เจต-เจษฎา ปัญญา (เบส), ตุ๊ก-พัฒนภูมิ ชอุ่มผล (กลอง) วงดนตรีเพื่อชีวิตในยุคใหม่นี้ยังคงมีจิตวิญญาณที่อยากเป็นกระบอกเสียงสะท้อนสังคมผ่านบทเพลงเหมือนเช่นเคย รวมถึงอยากชวนทุกคนมาร่วมภูมิใจในความเป็น “ไท” ที่ “เท่” ได้ตามแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งความเท่แบบไทนั้นไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แล้วมันก็มีเสน่ห์ในตัวเองเสมอ
ติดตามชมมิวสิกวิดีโอเพลง ไทเท่ – TaitosmitH Feat. ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ได้ทาง
YouTube Gene Lab
และฟังออนไลน์ได้ใน Streaming ทุกแพลตฟอร์ม
ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/taitosmithband
และ www.facebook.com/genelabrecords Instagram : taitosmith และ genelabrecords
#ไทเท่ #TaitosmitH #ไวพจน์ #GeneLab #GMMGrammy
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์