บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตซีรีส์แอนิเมชั่นและคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงชั้นนำของประเทศไทย จัดงาน “The Universe of Happiness” เปิดตัวโครงการใหญ่ศูนย์รวมแห่งเมตาเวิร์ส ทรานส์ลูเซีย (Translucia) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Infinite Universe of Interconnected Metaverses” ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าของโลกอย่าง Web3 มาใช้เพื่อพัฒนา ทรานส์ลูเซียให้เป็นแพลตฟอร์มใหญ่รองรับเมตาเวิร์สจำนวนมหาศาลให้เข้ามาอยู่ร่วมกันและสามารถเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมดได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมนำพาธุรกิจบันเทิงของ ทีแอนด์บีฯ เข้าสู่ธุรกิจโลกเสมือนอย่างเต็มตัวในยุคเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านธุรกิจบันเทิงระดับโลก
ในงาน “The Universe of Happiness” ได้รับความสนใจจากบุคคลสำคัญในวงการมากมาย ทั้งผู้บริหาร นักธุรกิจ เซเลบริตี้ นางงาม และศิลปิน-นักแสดงมากมาย อาทิ นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ, ชานน สันตินธรกุล, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, จ๊ะจ๋า-พิมรตา เดชอุดม, จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม, ดอม เหตระกูล, วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา, พีท ทองเจือ, อัญชลี จงคดีกิจ, กลุ่มศิลปิน LAST IDOL, แอนนา เสืองามเอี่ยม, โอปอล สุชาตา ช่วงศรี, อาย กัญญาลักษณ์ หนูแก้ว, มานิตา ดวงคํา ฟาร์เมอร์, มิ้นท์ พรทิวา สาครจันทร์, พีพี พัชญา เพียรเสมอ, จาด้า อินโตร์เร, อนิสา นูกราฮา, หลุยส์ เฮส, บอม พงศกร โตสุวรรณ, แชป วรากร ศวัสกร ฯลฯ และสำหรับไฮไลท์สำคัญของงานนั่นคือ แมทธิว ดีน นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถมารับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการกับ แมทธิว ในภาค AVATAR เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแขกในงานได้ประทับใจไปตาม ๆ กัน นอกจากนี้แมทธิวยังได้จูง เดมี่ ดีน ลูกสาวตัวน้อยมาร่วมสร้างความน่ารักน่าเอ็นดูบนเวทีให้กับแขกในงานอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่รวบรวมบรรดาคนดังระดับประเทศจากหลากหลายวงการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจักรวาลแห่งความสุขไปกับ ทีแอนด์บี อย่างล้นหลาม
ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ หรือ ดร.แตน ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) และผู้ก่อตั้งทรานส์ลูเซีย กล่าวว่า “ทรานส์ลูเซีย กำลังถูกพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ไร้รอยต่อและเชื่อมถึงกันได้ระหว่างโลกเสมือนและโลกจริง ซึ่งจะปลอดภัยสำหรับการสร้างโอกาสในการทำธุรกิจที่ไม่มีที่สิ้นสุดบนโลกอินเทอร์เน็ต”
การพัฒนาทรานส์ลูเซียจะเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับโปรเจ็กต์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ของทีแอนด์บี ซึ่งจะช่วยขยายมูลค่าตลอดชีพของ IP ของทีแอนด์บี ในขณะที่เป็นการสร้างแพลตฟอร์มซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับเรื่องราวที่พวกเขาชื่นชอบได้ และยังคงช่วยสร้างโลกที่พวกเราเฝ้าฝันถึง
คืออาณาจักรเมตาเวิร์ส ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ อนันตจักรวาลแห่งความสุข หรือ “Infinite Universe of Interconnected Metaverses” ซึ่งหมายถึงแพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลกมาผสมผสานกันให้สามารถรองรับเมตาเวิร์สหลาย ๆ แห่งเข้ามาอยู่ร่วมกันและเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้รอยต่อในอนันตจักรวาล ทรานส์ลูเซียแห่งนี้
“คอนเซ็ปต์นี้เกิดจากการที่เราต้องการจะรวบรวมจักรวาลเมตาเวิร์สหลาย ๆ จักรวาลเข้าด้วยกัน โดยเมตาเวิร์สเหล่านี้ต้องมีเป้าหมายและวิธีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเรานั่นคือการทำความดี เพื่อให้โลกเมตาเวิร์สของเราเป็นโลกที่ขับเคลื่อนด้วยกิจกรรมที่มีเป้าหมายสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในทุก ๆ มิติ รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ เมื่อหลาย ๆ เมตาเวิร์สที่มีเป้าหมายเหมือนกันมาทำงานร่วมกัน เราก็จะสามารถสร้างโลกแห่งความสุข สร้างคุณภาพสังคมที่ดี และกระตุ้นโลกจริงให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและมาร่วมกันทำความดีไปด้วยกัน” ดร.ชวัลวัฒน์ กล่าว
“ไม่เพียงแค่นั้น ความพิเศษของทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์สนี้ คือเราจะพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่นำโลกเสมือนและโลกจริงเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อผ่านการมอบประสบการณ์ที่หลากหลาย เราจะทำให้สถานที่นี้จะเป็นที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับทุกคน รวมถึงจะเป็นสถานที่ที่จะสร้างโอกาสที่ไม่สิ้นสุดให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสังคม องค์กรต่าง ๆ ภาคธุรกิจ และบุคคลทั่วไป”
ซึ่งการพัฒนาโครงการทรานส์ลูเซียนี้ จะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ ทีแอนด์บี ที่จะได้นำผลงานบันเทิงชั้นนำต่าง ๆ ที่ทางบริษัทเป็นผู้ผลิต รวมถึงงานลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหลายเข้ามาต่อยอดให้ใช้งานเชื่อมโยงได้ทั้งสองโลกอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อเร็วๆ นี้ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นพันธมิตรรายแรกของ ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส ก็ได้เปิดตัวโครงการ MQDC Idyllias (ไอดิลเลียส์) ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง MQDC Idyllias จะเป็นโลกเมตาเวิร์สแห่งแรกที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ อนันตจักรวาล ทรานส์ลูเซีย มาช่วยสร้างสรรค์โลกใบใหม่ โลกแห่งอนาคต ที่ ๆ โลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจะได้เชื่อมผสานกันเป็นหนึ่งเดียว
นายภาคภูมิ ตันตนันตา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของทีแอนด์บี จะมุ่งไปที่สามธุรกิจหลัก ได้แก่ การลงทุนในคอนเทนต์ (ซีรีส์แอนิเมชั่นและภาพยนตร์) ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง การลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อทำให้การเข้าถึงคอนเทนต์ของผู้ชมมีประสิทธิภาพและได้รับประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น และส่วนสุดท้าย คือ การลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนา ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส
ทั้งนี้ ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นที่รู้จักในผลงานสร้างสรรค์โดยบริษัทในเครือ บริษัท เชลล์ฮัท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เรื่อง เชลล์ดอน (Shelldon) ซีรี่ส์แอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ไทยเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ออกอากาศทางช่อง NBC ในสหรัฐอเมริกา และออกอากาศไปแล้วกว่า 180 ประเทศทั่วโลก รวมถึงได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 35 ภาษา
“การเข้ามาสู่โลกเทคโนโลยีและลงทุนครั้งใหญ่สร้างศูนย์รวมแห่งเมตาเวิร์สนี้ เป็นอีกวิวัฒนาการครั้งสำคัญของ ที แอนด์บี จากที่ผ่านมา เรามองว่า Digital interruption หรือโลกของดิจิทัล เป็นความท้าทายที่สำคัญของธุรกิจบันเทิง ธุรกิจพัฒนาคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรก ทีแอนด์บี เริ่มต้นจากการลงทุนทำธุรกิจจากการผลิตคอนเทนต์ หลังจากนั้นเราพบว่าเรามีโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของเราได้อีกหลายทาง ทั้งจากการปั้นศิลปินอย่าง Last Idol, การสร้างระบบ AI ที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพยนตร์ รวมทั้งนำกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยระบบ Cinelytic มาใช้ เรามีบริษัทต่าง ๆ ในเครือ ตั้งแต่ผลิตคอนเทนต์ อย่าง ภาพยนตร์, ซีรีส์, ซีรีส์แอนิเมชั่น เรามีธุรกิจ talent management, บริษัทจัดอีเว้นท์, streaming platform เราเป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนต์เมนต์ 360 องศา ที่มุ่งมั่นพัฒนาการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภค และเมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ จะเป็นการนำผลงานทั้งหลายจากธุรกิจที่ทำอยู่มาต่อยอดและช่วยให้โลกเสมือนและโลกจริงเชื่อมต่อกันได้อย่างแท้จริง” นายภาคภูมิ กล่าว
คุณจิรญา ทองเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาดและงานขาย บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำการตลาดในส่วนคอนเทนต์บันเทิงของ ทีแอนด์บี จะคงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ซึ่งปีนี้เราได้ลงทุนผลิต ซีรีส์แอนิเมชั่น และภาพยนตร์ ที่กำลังจะทยอยออกสู่สายตาแฟน ๆ ได้แก่ Legend of The Two Heroes, Out of The Nest, FriendZspace, Panda series เป็นโปรเจกต์ที่ร่วมทุนกับ CCTV ซึ่งเป็นช่องรายการระดับนานาชาติของประเทศจีน, The Meeps เราได้จับมือกับ ไซมอน ฟูลเลอร์ ร่วมทุนสร้าง Music Video ที่เพิ่งปล่อยออกไป และได้รับความสนใจอย่างมากมียอดรับชมมากกว่า 40 ล้านครั้งภายในหนึ่งเดือน และภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างไทย-จีน เรื่อง Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป (นำแสดงโดย ชานน สันตินธรกุล, โจ๊ก โซคูล – กรภพ จันทร์เจริญ และนักแสดงชาวจีน ปีเตอร์ เซิ่งอี้หลุน ฯลฯ) ซึ่งมีคิวเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2566 นี้ นอกจากนี้ ทีแอนด์บี ได้มีการนำเข้าภาพยนตร์จากต่างประเทศมาฉายให้แฟนภาพยนตร์ได้รับชมกันไปแล้ว อาทิ Vanguard, Ne Zha (นาจา), เฮย ภูตแมวมหัศจรรย์, The Misfits, Josee, The Tiger and The Fish, Tokyo Revengers, Dog, Book of Love, Fireheart, Notre Dame on Fire และ Moon Man ทั้งนี้ยังมีภาพยนตร์ที่เตรียมเข้าฉายในเดือนเมษายนนี้ ได้แก่ อาตมาฟ้าผ่า (ทีแอนด์บี ร่วมทุนสร้างกับ เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ เอ็ม พิคเจอร์ส) สำหรับในปีนี้ยังมีซีรีส์แอนิเมชั่นและภาพยนตร์ที่จ่อคิวรอฉายทั้งในโรงภาพยนตร์ และแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจนั้น เราได้ร่วมทุนสร้างซีรีส์แอนิเมชั่นกับประเทศจีน อาทิ Wanda Group, Shanghai Media Group, Sunac Culture, SMG และประเทศอื่น ๆ อาทิ Flying Bark และ Studio100 และยังมีอีกหลายโปรเจกต์ในอนาคตที่แฟน ๆ สามารถติดตามได้ใน Facebook, Instagram, YouTube, Twitter และ TikTok ของ T&B MEDIA GLOBAL #TandBTheUniverseOfHappiness #Transluciatheuniverseofhappiness #Translucia #TandBmediaglobal #HomeofHappy
ด้าน นายอธิศ นันทวรุณ กรรมการบริหาร ทรานส์ลูเซีย กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้หลาย ๆ คนอาจจะมีความรู้สึกว่า เมตาเวิร์ส เป็นเรื่องที่ไกลตัว หรือเป็นเรื่องที่คนจะให้ความสนใจแค่เฉพาะกลุ่ม หรือเป็นแค่เกมส์หรือไม่ มันจะมีคุณค่าหรือมีประโยชน์ให้กับชีวิตประจำวันของพวกเราได้อย่างไร คำถามเหล่านี้คงจะถูกตั้งขึ้นมา ถ้าพวกเรามองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์ม แต่ ทรานส์ลูเซีย คือการพัฒนาแนวคิดเชิงปรัชญาที่ต้องการให้ผู้คนได้ค้นพบคุณค่าชีวิตผ่านสิ่งที่เรียกว่า ความสุข”
นายอธิศ เสริมว่า “เมตาเวิร์ส เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่หลากหลายเข้าด้วยกัน และด้วยแนวคิดการพัฒนาของทรานส์ลูเซีย ที่สามารถเชื่อมต่อเมตาเวิร์ส ต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เราได้มีการทำงานในการหาแนวทางการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น Impact District จาก ประเทศไซปรัส ผู้พัฒนา Metaverse มุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนการสร้าง impact ในการเปลี่ยนแปลงโลก และ Band Protocol ที่เป็นผู้นำด้านการบริการ cross-chain data oracle (การนำข้อมูลจากเชนหนึ่งข้ามไปยังอีกเชนหนึ่งโดย Oracle) รวมถึง Tonomus ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และ Animoca Brands บริษัทระดับโลกผู้พัฒนาเกมส์และทรัพย์สินดิจิทัลด้านบล็อกเชน และเมตาเวิร์ส ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยผลักดันการสร้าง Use case และ Ecosystem ใหม่ ๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทรานส์ลูเซียคือเครื่องมือที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกของเรา สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึงการที่เราจะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ แต่มันมีการสร้างแรงบันดาลใจพร้อมกับมอบพลังให้กับคนหนึ่งคนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และต่อขยายไปอีกคน และต่อขยายไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สิ้นสุด จนกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนต่อไป
เราดีใจและมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ที่มีทั้งวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญในด้าน Web3 อาทิ Tonomus ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก, Animoca Brands ผู้พัฒนาและนักลงทุนระดับโลกใน Web3, Impact District ผู้พัฒนา Metaverse จากประเทศไซปรัส และ Band Protocol ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านบริการเกี่ยวกับ Oracle data แบบ Cross-chain”
นายพันธบัตร สันติมากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ ทรานส์ลูเซีย กล่าวเสริมว่า จากการใช้แนวคิดเชิงปรัชญาที่ต้องการให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตในสังคมที่ดี มีความสุข และมีความมั่งคั่งนั้นเป็นแนวคิดหลักในการพัฒนา ทำให้ทรานส์ลูเซีย ถูกพัฒนาขึ้นให้เน้นการส่งมอบคุณค่าหลัก 3 ประการแก่ผู้ใช้ โดยคุณค่าสำคัญที่ต้องการส่งมอบให้แก่ทุก ๆ คนนี้จะเป็นแกนหลักที่ช่วยขับเคลื่อนทิศทางการพัฒนาในเชิงกลยุทธ์ของทรานส์ลูเซีย
ประการแรก ทรานส์ลูเซีย ได้รับการออกแบบมาให้สร้างผลลัพธ์ในเชิงบวก โดยมุ่งเน้นและส่งเสริมผลักดันให้เกิดการทำความดี ผสมผสานไปกับการออกแบบระบบเศรษฐกิจทั้ง Economic design และ Tokenomic design ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงาน หรือสร้างธุรกิจเพื่อรองรับเทรนด์ต่าง ๆ ในอนาคต รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่ให้เกิดการพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม และตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับลูกหลาน ผู้คนในเจนเนอเรชั่นต่อไปที่จะเข้ามาเรียนรู้ในจักรวาลแห่งใหม่นี้
ประการที่สอง คือเรื่องระบบเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ความปลอดภัยและรองรับประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อด้วย ได้แก่ Artificial Intelligent หรือ AI พร้อมทั้งสร้างระบบ ecosystem ที่ใช้บล็อกเชนเทคโนโลยีแบบ Ethereum Layer 2 ที่มีชื่อว่า Lightlink เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมานี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับระบบด้วยต้นทุนที่ต่ำ ทำให้เรื่องของความปลอดภัยในด้านข้อมูลของ user และการรองรับด้านความปลอดภัยในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบใหม่ ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในโลก Web 3 ได้อย่างสมบูรณ์
และประการสุดท้าย คือการเชื่อมประสบการณ์ของทั้งโลกจริง และโลกเสมือนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถขยายการสร้างแบรนด์ และการเข้าถึงการสร้างรายได้ทั้งสองโลก ด้วยการวางแผนในการสร้างโลกด้วยเทคโนโลยี Digital Twin ร่วมกับโลกแห่งจินตนาการที่จะสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองโลกได้อย่างไร้รอยต่อ
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์