GHOST BOOK อัศจรรย์หนังสือดูดวิญญาณ >>

แชร์ข่าวนี้

ภาพยนตร์แฟนตาซีจากญี่ปุ่น เขียนบทและกำกับโดย ทาคาชิ ยามาซากิ ดัดแปลงมาจากชุดหนังสือภาพ Ghost Book หรือชื่อญี่ปุ่นว่า Obake Zukan (おばけずかん) ที่แปลได้ว่าสารานุกรมวิญญาณ (Ghost Encyclopedia)  ผลงานการเขียนของ ฮิโรชิ ไซโต้ และวาดภาพโดย เอ็ตสึโยชิ มิยาโมโต้ ในหนังสือชุดนี้เล่าเรื่องราวของผีประเภทต่าง ๆ และวิธีการรับมือกับมัน เป็นหนังสือชุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และขายได้มากถึง 1.5 ล้านก็อปปี้ (ข้อมูลเดือนกรกฎาคม 2022)  และยังได้สร้างเป็นซีรีส์อนิเมะในปี 2020 อีกด้วย

จากหนังสือสู่ภาพยนตร์

โปรดิวเซอร์เคนจิ ยามาดะ อยากทำหนังแฟนตาซีบล็อกบัสเตอร์ที่มีตัวละครหลักเป็นเด็ก ๆ  อย่างเช่นหนังดังอย่าง ET’ (1982), The Goonies (1985) และแฟรนไชส์ Harry Potter เพราะว่าในประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยมีหนังที่มีตัวเอกเป็นเด็กมากนัก แต่ว่าในปีหลัง ๆ นี้เรื่องราวที่เป็นที่นิยมในโลกตะวันตกก็มีหลายเรื่องที่ดำเนินเรื่องด้วยเด็ก อย่างเช่นซีรีส์ Stranger Things ที่ครองใจคนทั่วโลก เคนจิ ยามาดะ ได้พบกับหนังสือ Obake Zukan เมื่อ 3 ปีก่อนที่จะเริ่มสร้างหนัง จากการแนะนำของลูกสาววัยประถมของเขาเองว่าเป็นหนังสือที่ป็อปปูลาร์ในหมู่เด็ก ๆ มาก และเมื่อได้สัมผัสของโลกสารานุกรมผีนี้เขาจึงได้นำไปทาบทาม ทาคาชิ ยามาซากิ ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมที่สร้างความประทับใจมาแล้วทั่วเอเชียกับผลงานไตรภาค ALWAYS Sunset on Third Street   และ Stand by Me Doraemon ทั้ง 2 ภาค เพราะนอกจากเขาจะเป็นทั้งผู้กำกับและมือเขียนบทฝีมือดีแล้วเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิชวลเอฟเฟ็กต์อีกด้วย

โปรดิวเซอร์เชื่อมั่นว่าเขาจะสร้างโลกแฟนตาซีขึ้นมาได้ อีกทั้งผู้กำกับยามาซากิยังเคยเปิดตัวผลงานกำกับเรื่องแรกกับหนัง Juvenile (2000) ที่มีตัวละครเอกเป็นเด็กเหมือนกัน และโปรดิวเซอร์ยามาดะก็ประทับใจมาตั้งแต่เรื่องนั้น และเขาเชื่อว่าเรื่องราวของหนังเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้คนดูแล้วมีความหวังซึ่งเหมาะสมกับโลกที่ผ่านช่วงระยะเวลาที่ยากลำบากในยุคโควิด

ซึ่งผู้กำกับยามาซากิเองก็หาโอกาสอยากจะทำหนังเกี่ยวกับเด็ก ๆ อีกครั้งมานานแล้ว จึงได้ตอบตกลงรับทำหนังเรื่องนี้ พ่วงหน้าที่เขียนบท และ วิชวลเอฟเฟ็กต์ซึ่งเขายังได้ดีไซน์ตัวละครใหม่ และปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะกับการเป็นภาพยนตร์มากขึ้นด้วย

“เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว หลังจากภาพยนตร์เรื่องแรกของผม Juvenile ผมมีความรู้สึกอยากทำหนังเกี่ยวกับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมันอาจจะเป็นต้นกำเนิดของผมเองก็ว่าได้ ดังนั้นผมถึงได้ดีใจมากที่ได้รับการเสนอให้ทำเรื่องนี้

นำเสนอความหวังของเด็กๆ 

สิ่งที่หนังสือต้นฉบับทำให้ผู้กำกับยามาซากิอยากนำเสนอ คือความรู้สึกของเด็ก ๆ ที่ว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรพวกเขาก็จะสามารถฝ่าฟันมันไปได้ โดยพูดว่า “แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกนะ”  มันอยู่ในเรื่องราวเกี่ยวกับผีในแต่ละตอนซึ่งเขาคิดว่ามันวิเศษมาก “ตอนผมได้อ่านหนังสือต้นฉบับ มันมีเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันทำให้ผมรู้สึกได้กลับไปยังวัยเด็กของผม

 

ผมอยากที่จะทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ เด็ก ๆ ได้ใช้ความฉลาด ความกล้าหาญ โอกาส หรือแม้กระทั่งโชค ที่จะเอาชนะสิ่งที่ยากลำบากจนเหมือนจะเอาชนะไม่ได้ และได้ประสบความสำเร็จ ในเรื่องต้นฉบับมีผีที่มีเสน่ห์หลายตัวเลย แต่จะเลือกตัวไหนมานำเสนอดี เราก็เลยได้ลองให้ผีปรากฏตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะผีจากหนังสือต้นฉบับ ทีนี้ก็เหลือว่าจะใส่คำว่า ‘แต่ว่า ไม่เป็นไรหรอกนะ’ ใส่เข้าไปในเรื่องได้ยังไง นั่นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาและเป็นเป้าหมายในการเขียนบทครับ”

นักแสดงรับเชิญสุดพิเศษ

การถ่ายทำ Ghost Book ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ที่ Toho Studio โดยเปิดกล้องกลางเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 เนื้อหาของหนังเล่าถึงการร่วมแรงร่วมใจกันผจญภัยในต่างโลกเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งเหล่านักแสดงเด็กก็สนิทกันมาก ๆ เพราะพวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกันแบบเต็ม ๆ และที่พิเศษคือการได้ผู้แต่ง Ghost Book ฮิโรชิ ไซโต้ มาเป็นแขกรับเชิญเป็นครูใหญ่ผู้ทักทายนักเรียนที่หน้าประตูโรงเรียนอย่างร่าเริง

และมีการคารวะต่อหนังเรื่อง “Juvenile”  โดยได้นักแสดงร่วมแจม ทั้ง ยูยะ เอนโด ผู้รับบทเป็นยูสึเกะ และแอน ซูซูกิ ผู้รับบทมาซากิ มารับบทเป็นคู่สามีภรรยา ซึ่งคาซึกิ ตัวละครหลักของ Ghost Book คือลูกของทั้งสองคน โดยผู้กำกับยามาซากิ วางบทให้คาซึกิเป็นเด็กที่เปิ่นๆ นิดหน่อย เพราะเขาชอบตัวละครประเภทนี้

แก๊งเด็กผจญภัยในโลกพิศวง

กลุ่มเพื่อนเด็กนักเรียนป.6 คาซึกิ , ไทจิ และซันนี่ มีคำอธิษฐานที่พวกเขาอยากให้เป็นจริงอยู่ พวกเด็ก ๆ จึงได้ไปขอพรที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง และได้พบกับร้านหนังสือเก่าปริศนา ที่นั่นพวกเขาได้เจอหนังสือ “Ghost Book”  สารานุกรมผี ที่หากใครได้ครอบครองจะขอให้ความปรารถนากลายเป็นจริงได้ทุกอย่าง ในทุกหน้าของหนังเล่มนี้ที่พวกเขาเปิดและขอพร จะเรียกปิศาจจากอีกโลกออกมาปรากฏตัวทุกครั้ง

เวทมนตร์ของหนังสือนี้ทำให้พวกเด็ก ๆ และโยโกะ คุณครูของพวกเขาได้ผจญภัยไปในโลกวิญญาณ  และพวกเขาต้องตามจับเหล่าผีจากสารานุกรมภายใน 3 วัน เพื่อหาทางกลับไปยังโลกเดิมของพวกเขาให้ได้

 

ผู้กำกับยามาซากิทำการออดิชันเด็ก ๆ กว่า 500 คนเพื่อที่จะมาแสดงเป็นนักแสดงนำของเรื่อง โดยที่คัดจากเด็กที่สามารถแสดงบทบาทตัวละครของพวกเขาได้ดี มากกว่าที่คัดจากประสบการณ์ทางการแสดงหรือว่าความนิยม

คาซึกิ ซาคาโมโตะ รับบทโดย โจ ไคริ

บทคาซึกิ  หัวโจกของแก๊งเพื่อน จำเป็นจะต้องมีความสามารถทางการแสดงที่โดดเด่น ตกเป็นของ โจ ไคริ นักแสดงหนุ่มน้อยที่มีชื่อเสียงจากการแสดงเรื่อง Shoplifters (2018) หนังรางวัลปาล์มทองของผู้กำกับ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ แม้ว่าโจจะมีชื่อเสียงแล้ว แต่เขาก็ยังคงมีความใสซื่อบริสุทธิ์ที่เหมาะสมกับบทอยู่ เขายังคงมีความเป็นธรรมชาติที่ไม่เหมือนนักแสดงที่ได้รับการปรุงแต่ง โดยโปรดิวเซอร์เลือกเขามารับบทนี้ไม่ใช่จากความโด่งดัง แต่มาจากคุณภาพฝีมือของเขาล้วน ๆ

“ผมประหม่ามาก ๆ ตอนที่ตัดสินใจว่าจะได้ร่วมแสดงในผลงานของผู้กำกับยามาซากิเป็นครั้งแรก แต่ว่าทั้งผู้กำกับและทีมงานก็ได้พูดคุยกับผมอย่างอ่อนโยน ผมได้สนุกที่กองถ่ายทุกวันเลย กับเพื่อน ๆ นักแสดงผมได้ซ้อมบทและปรึกษากันว่าจะถ่ายกันยังไง ตอนที่ปิดกล้องแล้วคุณยูอิ อารางากิ เขียนจดหมายให้กับเราทุกคน ผมรู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนที่น่ารักและใจดีมาก ๆ ครับ สำหรับคาแรกเตอร์ของผมในเรื่องนี้ ผมรับบทคาซึกิ เด็กที่ขี้กลัวและดูพึ่งพาไม่ได้ แต่ผมประทับใจว่าเขาเป็นคนที่จิตใจดีและห่วงใยเพื่อนของเขามาก ผมได้ร่วมงานกับผู้กำกับยามาซากิ ช่วยกันคิดว่าจะแสดงออกมาอย่างไร ผมจึงตั้งตารอคอยหนังเรื่องนี้มากครับ”

ผลงานเด่น: Shoplifters (June 2018, The Promised Neverland ( 2020)

ไทจิ คุโด้ รับบทโดย ฟูกะ ชิบาซากิ

บทไทจิ ได้รับการวางตัวตั้งแต่แรกว่าเป็นฟูกะ ชิบาซากิ เพราะว่าเขามีลุคที่ดูเท่และมีบรรยากาศความเป็นผู้ใหญ่ที่เหมาะกับบทนี้

“บทไทจิที่ผมได้รับ เป็นเด็กชายที่ไม่เชื่อในตัวผู้ใหญ่ครับ เขามีความขบถ และชอบพูดจาแรง ๆ แต่เขาก็เป็นเด็กที่ยืนหยัดไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องยากลำบากแค่ไหนและเขาก็เป็นห่วงเพื่อน ๆ ของเขามากกว่าใคร ดังนั้นผมเลยอยากนำเสนอความทุ่มเทของเขาให้เต็มศักยภาพครับ คุณอารางากิ มักจะให้คำแนะนำตอนในช่วงที่รอการถ่ายทำ เธอเลยเป็นเหมือนคุณครูจริง ๆ ของผมเลย ผมได้ใช้ชีวิตกับโจคุง, ซันนี่ และอายากะจังราว ๆ 4 เดือนตั้งแต่ช่วงที่ซ้อมบทเตรียมการสร้างจนถึงช่วงถ่ายทำ ผมประทับใจในทุก ๆ วันที่ได้ใช้ชีวิตกับพวกเขาเหมือนพวกเขาเป็นเพื่อนจริง ๆ ของผม คุณผู้กำกับยามาซากิก็ได้ใช้ช่วงเวลาว่างของเขากับเราด้วย การได้พูดคุยถึงการแสดงและการได้เล่นสนุกกัน ทำให้พวกเราได้ทั้งความสุขและได้เรียนรู้มากมายทุกวันเลยครับ”

ผลงานเด่น: Tomorrow’s Dining Table (2021) , The Promised Neverland (  2020)

“ซันนี่” โซสุเกะ อิดะ รับบทโดย ซันนี่ แมคเคลนดอน

แม้ว่าจะเป็นการแสดงครั้งแรกแต่ซันนี่ แมคเคลนดอน สร้างความประทับใจให้กับทีมงานเป็นอย่างมาก เขามีเสน่ห์ตั้งแต่ตอนมาออดิชันแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงเลย แต่เขาก็ทำให้ทีมงานติดใจจนปรับบทให้เข้ากับเขาถึงขั้นที่เปลี่ยนชื่อตัวละครให้ชื่อ “ซันนี่” ตามชื่อจริงของเขาด้วย

“มันยากสำหรับผมครับเพราะว่านี้เป็นการแสดงครั้งแรกแต่ผมมีความสุขในทุก ๆ วันเลย ผมได้เจอผู้กำกับยามาซากิครั้งแรกตอนออดิชัน ผมคิดว่าเขาน่ากลัวนิดหน่อย แต่พอเริ่มถ่ายทำเขาก็ใจดีมาก และคุยกับผมบ่อย ๆ ตอนช่วงพักเบรก แม้ว่ากระทั่งช่วงถ่ายทำเขาก็มาช่วยดูแลผมและเล่นกับผม ทั้งโจ กับฟูกะ ผมก็เข้ากันได้ดี ช่วงที่ต้องถ่ายทำข้ามคืนเราก็จะไปอาบน้ำกินข้าวด้วยกันทุกวันเลย วันไหนที่เราไม่ได้ถ่ายทำก็จะเล่นเกมออนไลน์กัน  มันกลายเป็นความทรงจำที่แสนล้ำค่า ผมได้ฉลองวันเกิดในช่วงที่ถ่ายทำด้วย ผมเลยมีความสุขมากที่ทีมงานและเพื่อน ๆ นักแสดงจัดเซอร์ไพรส์ให้กับผม ผมอายหน่อย ๆ ที่ได้เห็นตัวเองในหนัง แต่มันเป็นหนังที่น่าสนใจและซึ้งมาก ผมเลยอยากให้คนอื่น ๆ ได้มาดูเรื่องนี้ครับ” 

 

มินาโตะ โทจิบานะ รับบทโดย อายากะ โยชิมุระ

มินาโตะ เป็นเด็กหญิงที่คาซึกิแอบชอบ แสดงโดย อายากะ โยชิมุระ ที่เพิ่งเดบิวต์งานการแสดงในเรื่องนี้ บทของเธอต้องแสดงอารมณ์ที่หลากหลายรวมถึงต้องร้องไห้ด้วย ดังนั้นทีมงานจึงลองเสี่ยงกับบทบาทของเธอเพื่อที่จะนำเอาความสดใหม่และความตรงไปตรงมาของเธอออกมาบนจอภาพยนตร์

          “ฉันพยายามที่จะคิดว่าจะนำเสนอความสดใสของมินาโตะออกมายังไง มินาโตะเป็นคนที่เกลียดความพ่ายแพ้และตรงไปตรงมา แต่ด้วยที่พวกเรามีอายุใกล้เคียงกันเราได้ฉลองวันเกิดด้วยกัน ได้เล่นปาหินกันและเล่นสนุกกันหลาย ๆ อย่าง อย่างแข่งปาหินลงทะเลแล้วดูว่าใครจะปาได้ไกลที่สุด คุณผู้กำกับก็มาเล่นด้วยค่ะ มันเป็นความทรงจำที่วิเศษ คุณอารางากิก็เป็นคนที่เพอร์เฟกต์มากเธอคอยดูแลคนอื่น ๆ อยู่เสมอ ฉันอยากจะเป็นผู้หญิงแบบนั้นบ้าง มันเป็นสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันเลยค่ะ ฉันรักในความอบอุ่นของผู้กำกับยามาซากิและวิธีการมองโลกของเขา และฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้มีส่วนร่วมในหนังด้วย ในช่วงวันสุดท้ายทุกคนที่คอยให้กำลังใจฉันมารวมตัวกัน ฉันหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย ฉันตั้งตารอคอยว่าผลงานนี้ออกมาเป็นยังไง ฉันตื่นเต้นมากๆ” 

 

นักแสดงยอดนิยม “งักกี้” และ “คามิกิ”

นอกเหนือจากนักแสดงเด็ก ๆ แล้วในเรื่องนี้ยังได้นักแสดงมากฝีมือและเป็นที่รักของชาวญี่ปุ่นอย่าง “ยูอิ อารางากิ” และ “ริวโนะสุเกะ คามิกิ” มาร่วมแสดงด้วย ซึ่งทั้งสองคนเป็นตัวเลือกแรกของทีมงาน

 

โยโกะ ฮายามะ รับบทโดย ยูอิ อารางากิ หรือ “งักกี้”  

นักแสดงสาวในดวงใจที่ชายญี่ปุ่นหลงรักและอกหักกันไปทั้งประเทศหลังจากเธอแต่งงานกับเก็น โฮชิโนะ ศิลปินและนักแสดงมากฝีมือ ไปเมื่อปี 2021 มารับบทเป็น โยโกะ คุณครูของพวกเด็ก ๆ ที่ต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องราวพิสดารจาก Ghost Book  เธอเคยร่วมงานกับผู้กำกับยามาซากิมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง BALLAD Nameless Love Song (2009) ซึ่งผู้กำกับยามาซากิประทับใจในการแสดงของเธออย่างมาก “เธอเป็นคนที่ฉลาดมากครับ ผมว่าเธอมีทักษะที่น่าทึ่งในในการซึมซับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เธอเป็นคนที่รู้จังหวะการแสดงเป็นอย่างดี มีซีนหนึ่งที่คุณอารางากิ ได้ช่วยผมไว้เยอะมากจนคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ได้คุณครูโยโกะมาช่วยไว้ เด็ก ๆ ได้เข้าไปสู่บรรยากาศที่เธอสร้างไว้ และเนื้อหาได้ดำเนินไปตามจังหวะจะโคนที่เธอเป็นผู้สร้าง ดังนั้นการแสดงของเธอได้ช่วยเรื่องเอาไว้เยอะมาก เป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้คุณอารางากิมารับบทเป็นคุณครูโยโกะ”

โดยเธอเองเผยว่า “ฉันรับบทเป็นโยโกะ ครูสอนแทนที่ต้องเจอกับอุปสรรคบางอย่างเกี่ยวข้องกับเด็ก ๆ   ขณะที่โยโกะใช้เวลาอยู่กับเด็ก ๆ เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับอนาคตที่คลุมเครือของตัวเองเช่นกัน เนื่องจากเราถ่ายทำในช่วงที่มีการระบาดของโควิด  ทำให้มีกฎระเบียบในกองถ่ายใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย  ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เด็ก ๆ นักแสดงก็สับสนไปด้วยเช่นกัน แต่ละคนก็มีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซึ่งฉันก็พยายามถ่ายทอดมันออกมาอย่างเต็มที่ การร่วมงานกันครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองแล้วของฉันกับผู้กำกับทาคาชิ  ยามาซากิ ในกองถ่ายเขามักจะจับแมลงหรือเล่นตลกแบบซื่อ ๆ ใส่ และมีช่วงเวลาที่ทำให้ฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กมากกว่านักแสดงคนอื่น ๆ บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นคนแบบนั้น ฉันจึงรู้สึกว่าผลงานของคุณยามาซากิถ่ายทอดความรู้สึกของเด็ก ๆ ได้อย่างน่าประทับใจอยู่เสมอ ฉันตั้งตารอจริง ๆ  ที่จะได้เห็นว่าทุกคนจะแสดงอารมณ์ออกมาแบบไหนบนจอในโรงภาพยนตร์”    

 

ผลงานเด่น: นักแสดงที่ได้รับความนิยมระดับท็อปของญี่ปุ่นและเคยได้รับการเลือกให้เป็นนักแสดงที่อยากเป็นแฟนสาวมากที่สุดในการจัดอันดับประจำปี ของ Oricon หลายครั้ง, ซีรีส์ The Full-Time Wife Escapist (2016)  แสดงนำร่วมกับ เก็น โฮชิโนะ, ซีรีส์ Code Blue)

 

เจ้าของร้านหนังสือเก่า รับบทโดย  “ริวโนะสุเกะ คามิกิ

เจ้าของร้านหนังสือเก่าผู้ลึกลับ เขาเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในร้านที่เต็มไปด้วยหนังสือที่ไม่น่าไว้วางใจและเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เขาเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหล่าผี

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำงานกับผู้กำกับ ทาคาชิ  ยามาซากิ  ผมสนุกกับการเล่นบทบาทชายลึกลับ ผู้มอบบททดสอบให้กับเด็ก ๆ บทนี้ทำให้ผมสามารถร่วมแสดงกับเด็ก ๆ ผู้ที่จะเป็นผู้นำของคนยุคต่อไป ผมก็ สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของพวกเขาในการรับมือกับความท้าทายผ่านภาพยนตร์ และผมก็ได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาเช่นกัน เด็ก ๆ เติบโตเร็วมาก ผมเลยตั้งตาคอยที่จะได้เห็นพวกเขาเติบโตในหนังเรื่องนี้ ผมคงจะมีความสุขเช่นกันหากผู้ชมได้ชมการเติบโตของเด็ก ๆ ด้วยกันที่โรงภาพยนตร์ ซึ่งมันจะทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า ฉันสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ทุกเมื่อที่ต้องการ!หรือ ฉันรับมือกับทุกความท้าทายได้เลยตอนนี้!มาร่วมผจญภัยไปด้วยกันผ่าน Ghost Book ไปด้วยกันนะครับ!”

 

ผลงานเด่น:  หลังจากแสดง Ghost Book แล้วผู้กำกับทาคาชิ ยามาซากิ ก็ติดใจในฝีมือของริวโนะ สุเกะ คามิกิ จนชวนไปร่วมงานเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ GODZILLA MINUS ONE

ริวโนะสุเกะ คามิกิ เข้าวงการด้วยการเป็นนักแสดงเด็กมาก่อนทำให้เขามีผลงานมาแล้วมากมาย ปัจจุบันมีทั้งงานพากย์เสียงแอนิเมชันและเป็นยูทูบเบอร์เปิดช่องของตนเอง และติดอันดับนักแสดงมากฝีมือในวัย 20s ในหลายสำนัก (ปัจจุบันเพิ่งอายุ 30 ปี ไปเมื่อ 19  พฤษภาคมปีนี้)  ผลงานที่น่าจดจำมีมากมาย เช่นRurouni Kenshin The Final Chapter (2021) Holic xxxHOLiC (2022) ซีรีส์ Ranman (2023)

 

นักพากย์ชั้นนำ

เสียงสารานุกรมผี  พากย์เสียงโดย ริเอะ คุกิมิยะ

ยามาบิโกะ (ภูติเสียงสะท้อน คล้ายลิงผสมสุนัข)  พากย์เสียงโดย โทโมคาสึ สุกิตะ

อิตตัน โมเม็น (ผีผ้า)   พากย์เสียงโดย ฮิโระ ชิโมโนะ

เฮียกคุเมะ (ผีร้อยตา)   พากย์เสียงโดย อากิโกะ โอสึกะ

จิซึริ (อสูรตะขาบ)  พากย์เสียงโดย มิน ทานากะ

 

I Wanna Be Your Ghost” บทเพลงสุดน่ารักจาก เก็น โฮชิโนะ

ศิลปินเพลงประกอบของเรื่องนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ศิลปินผู้มากความสามารถเก็น โฮชิโนะ ผู้ซึ่งเป็นสามีของ “งักกี้” ได้มาทำเพลงประกอบให้ โดยเพลงนี้เขาขึ้นเครดิตเอาไว้ว่า featuring กับ “ผี” หรือ Obake หรือถ้าพูดตามภาษาไทยแบบวัยรุ่นหน่อยก็ต้องเรียกว่า “ผีในห้อง” เอาไว้ด้วย เนื่องจาก เก็น โฮชิโนะ เผยว่าระหว่างที่แต่งเพลงนี้เขาได้พบกับประสบการณ์เหนือธรรมชาติสนุก ๆ ด้วย ก็เลยขอให้เหล่าคุณผี ซึ่งคือนักพากย์  ริเอะ คูกิมิยะ , ฮิโระ ชิโมโนะ และ โทโมคาสึ สุกิตะ ที่พากย์เสียงเป็นบรรดาผีในเรื่องได้มาร่วมแจมร้องเพลงในท่อนคอรัสด้วย

 

เก็น โฮชิโนะเผยว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุก ๆ ชวนเต้นเพราะเขาอยากให้ขอบเขตระหว่างโลกมนุษย์และโลกอื่นได้หายไป ให้ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ได้เต้นรำกัน ด้าน MV ของเพลงนี้ก็ทำเป็นแอนิเมชันน่ารัก ที่ได้ ยูกิ อิการาชิ แอนิเมเตอร์ผู้มีผลงานการทำฉากจบ (Ending Theme) ของแอนิเมชัน Jujutsu Kaisen ซีซันแรกมาเป็นผู้กำกับ

เพลง “I Wanna Be Your Ghost” หรือ 異世界混合大舞踏会 (feat. おばけ) ได้รับความนิยมอย่างมากตอนที่ปล่อยเพลงนี้ออกมา โดยติดอันดับ 1 “Oricon Weekly Digital Single (Single Song)” และปัจจุบันยอดฟังเพลงนี้ใน youtube มากถึง 13 ล้านครั้ง

อีกทั้งยังมีท่าเต้นสุดน่ารักจนกลายเป็นไวรัล ที่ได้ ริวโนะสุเกะ คามิกิ มาชวนทุกคนเต้นตามเป็น Challenge ซึ่งมีผู้เข้าชมใน YouTube มากถึง 1.2 ล้านครั้ง

ดู MV

ท่าเต้นไวรัล

https://www.youtube.com/shorts/Gf-pFTn_FC8

ที่มา:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้