ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วกับงาน งาน First Date with TOUCH in Thailand ในวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ห้อง ออดิธอเรี่ยม สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชอุปถัมภ์ หลังจากที่ได้มาฝากความประทับใจให้กับแฟนๆ ในประเทศไทยด้วยการทุ่มเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยถึง 1,000,000 วอน เมื่อปลายปีที่แล้ว 5 หนุ่มวง TOUCH บอยแบนด์จากประเทศเกาหลีซึ่งประกอบไปด้วย ซอนอุง – ร้องหลัก ฉายาดอกไม้ของวง, แจอุค – ร้องนำ, ชอลมิน – ลีดเดอร์ ทำหน้าที่เหมือนคุณพ่อคอยดูแลคนอื่นๆ ในวง, ซองยง – ร้องนำ เจ้าชายในวง และมักเน่ของวง กังฮยอน – ร้องแร๊ป กลับมามอบความประทับใจให้กับแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้งภายในงานนี้
ก่อนจะพบกับหนุ่มๆ ในงานแฟนมีทนั้น หนุ่มๆ ทั้ง 5 ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างน่ารักและเป็นกันเองถึงการมาประเทศไทยในครั้งนี้
โดยเริ่มจากหนุ่มแจอุค พูดถึงแนวเพลงของวงว่า “เพลงล่าสุด Let’s walk together เป็นเพลงน่ารัก ใสๆ เป็นเพลงที่พยายามตั้งใจให้ออกมาดูน่ารักสดใสมากกว่าซิงเกิ้ลก่อนๆ ที่จะดูรุนแรงดูเป็นผู้ชาย”
หนุ่มชอลมินพูดถึงจุดเด่นของวง TOUCH อย่างขำๆ ว่า “จุดเด่นคือมีคุณซอนอุง (ทุกคนหัวเราะ) เสน่ห์ของวงน่าจะเป็นความหลากหลายของสมาชิกแต่ละคนในวงที่แสดงให้แฟนคลับได้เห็น เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์เพลงก็จะมีทั้งด้านที่แมนๆ และด้านที่น่ารัก”
แจอุคกล่าวเสริมว่า “วงทัชน่าจะเป็นวงที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับแฟนคลับมากๆ จะมีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่นทานอาหารกับแฟนคลับ (ที่เกาหลี) น่าจะเป็นวงที่สนิมสนมและใกล้ชิดกับแฟนคลับมากๆ”
พิธีกรถามต่อถึงความแตกต่างของวง TOUCH กับศิลปินอื่น ลีดเดอร์ชอลมินตอบว่า“อย่างที่บอกไปว่าเมมเบอร์แต่ละคนมีลักษณะและนิสัยที่หลากหลายน่าจะเป็นสิ่งที่แตกต่างจากวงอื่น เพื่อให้แฟนๆได้เห็นความหลากหลายของวงก็พยายามทุกๆ ทางที่จะมาพบเจอเรื่อยๆ”
ก่อนจะมาเดบิวต์เป็นวง TOUCH ชอลมินบอกว่า “เพื่อที่จะได้เดบิวต์ก็จะมีขั้นตอนของการออดิชั่น ในช่วงการออดิชั่นมีการแข่งขันกันสูงก็รู้สึกลำบากมากกว่าจะผ่านการออดิชั่นมาเป็นตัวจริง”
สิ่งที่น่าจดจำและประทับใจ หนุ่มแจอุคเล่าว่า“ก่อนจะได้มาร่วมการวงทัช ไปออดิชั่นทั้งหมด 3-4 ครั้ง จำได้ว่าช่วงนั้นฝนตกหนักมาก ต้องตากฝน” (แกล้งร้องไห้ สมกับที่เป็นหนุ่มอารมณ์ดีจริงๆ)ชอลมินจึงพูดปิดท้าย “ทุกครั้งที่ไปออดิชั่นแล้วไม่ผ่านออดิชั่นก็รู้สึกท้อ แต่พอได้เดบิวต์เป็นวงทัชแล้วก็ลืมไปหมดแล้ว”
เหตุผลจัดแฟนมีทติ้งที่ประเทศไทยหนุ่มชอลมินกล่าวว่า“ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มาประเทศไทยและมาจัดแฟนมีทติ้ง เป็นเพราะแฟนๆ ให้กำลังใจและให้ความรักกับวง TOUCH มากๆ พวกเราถึงได้มีโอกาสมาประเทศไทยและจัดแฟนมีทติ้งครั้งนี้” ซอนอุงกล่าวเสริมว่า “ความจริงเราก็ไม่คาดมาก่อนเราเพิ่งมาประเทศไทยเป็นครั้งที่สอง แต่ก็ได้มีโอกาสได้มาจัดแฟนมีทติ้งได้มาพบกับแฟนๆ พวกเรารู้สึกดีใจมากๆ ที่แฟนคลับคอยมาให้กำลังใจและให้ความรักกับพวกเราขนาดนี้”
พิธีกรจึงถามถึงการมาประเทศไทยครั้งนี้ชอลมินตอบว่า “ที่รู้สึกตกใจและประทับใจที่สุดคือ คือแฟนมีทติ้งครั้งนี้พวกเราไม่ได้เตรียมตัวและวางแผนกันไว้เองแต่แฟนคลับเป็นคนจัดเตรียมและเชิญมา รู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติมาก” ซอนอุงกล่าวถึงความรู้สึกที่มาไทยครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนคือ“ครั้งที่แล้วที่มานั้นมีกิจกรรมน้ำท่วมตอนนั้นก็รู้สึกเสียใจกับคนไทยด้วย เมื่อมาถึงสนามบินอากาศก็ดีมาก ครั้งนี้มีแฟนคลับมาต้อนรับที่สนามบิน ก็รู้สึกดีใจและประทับใจมากๆ รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่แฟนคลับไม่ลืมพวกเค้า”
เมื่อพิธีกรถามว่าชอบประเทศไทยมั๊ย หนุ่มซอนอุงตอบว่า “ชอบมาก” และชอลมินเป็นตัวแทนที่เหลือตอบว่า“ทุกคนชอบหมดเลย” จึงถูกถามต่อว่าชอบอะไรในประเทศไทย หนุ่มขี้เล่นทั้ง 5 ก็ตอบแซวกันไปมา สร้างเสียงหัวเราะให้กับสื่ออย่างมาก
แจอุค : “แตงโมปั่น”
ซอนอุง : “เลิกพูดคำว่าแตงโมปั่นได้แล้ว”
แจอุค : “ไอเลิฟแตงโมปั่น”
ซอนอุง : “เมื่อวานไปให้สัมภาษณ์สื่อก็พูดแต่เรื่องแตงโมปั่น”
ชอลมิน : “ให้พูดถึงอย่างอื่นบ้าง”
ซอนอุง : “แตงโมปั่น”
ชอลมิน : “ความจริงก็อยากรู้มุมอื่นๆ ของประเทศไทยมากขึ้น ถ้ามีโอกาสก็อยากมาประเทศไทยอีก”
ซองยง : “รู้สึกว่าคนไทยใจดีและเป็นกันเองมากๆ”
ถ้าพูดถึงประเทศไทย 5 หนุ่มวง TOUCH จะนึกถึง…
ซอนอุง : “มวยไทย”
แจอุค : “แตงโมปั่น”
ชอลมิน : “ช้าง”
ซองยง : “พัทยา”
กังฮยอน : “ทะเล”
หนุ่มๆ เคยทานอาหารไทยบ้างมั๊ย อะไรบ้าง
แจอุค : “แตงโมปั่น ไอเลิฟแตงโมปั่น”(ฮา)
ซอนอุง : “ผัดไท ยังไม่เคยทานผัดไทที่ประเทศไทย แต่ถ้าไปร้านอาหารไทยที่เกาหลีผัดไทที่นั่นไม่ค่อยใช้น้ำมันเยอะ มีแคลอรี่น้อย เคยทานผัดไทที่นั้นอย่างอร่อยมาก ตอนนั้นทานแล้วไม่อ้วนเลยทานไปเยอะมากๆ”
ถ้ามีเวลาอยากไปเที่ยวไหนในประเทศไทย
ชอลมิน : “รู้สึกเสียดายมากที่มาถึงประเทศไทยแล้วแต่ไม่มีเวลาไปเที่ยว ถ้ามีเวลาอยากเที่ยวในกรุงเทพฯ”
ซอนอุง : “อยากนั่งเรือ เคยเห็นรายการรันนิ่งแมนมาถ่ายในประเทศไทย และเห็นตลาดน้ำมีอาหารมีของกินเยอะมาก เลยอยากไปเที่ยวที่นั่นและซื้อของกินที่นั่น”
ซองยง : “ทะเลเมืองไทยสวยมากๆ อยากไปภูเก็ตคนเดียวและไปนั่นรับลมที่นั่น เพราะที่นั่นสวยมากๆ”
ซอนอุงแซว : “เป็นเทพหรือเทวดาลงมาจากสวรรค์ มีความแตกต่างจากคนอื่น”
ซองยง : “ไปเที่ยวภูเก็ตแล้วกลับบ้านเกิด”(ฮา)
กังฮยอน : “อยากไปเกาะสมุย เคยเห็นรูปมาก่อนสวยงามมาก ถ้ามีโอกาสอยากมาเที่ยวกับครอบครัว”
เมื่อให้พูดถึงสาวๆ ในฝันของแต่ละคน
ซอนอุง : “สาวในสเปคคือเป็นคนที่เคารพผู้ใหญ่ และมีรอยยิ้มที่สวย”
แจอุค : “ไม่ได้เรียกว่าเป็นสาวในสเปค ไม่ได้มีสเปค แต่ว่าอยากให้เป็นคนที่ทำอาหารเก่ง เพราะคุณแม่ทำอาหารเก่งมากๆ ก็อยากให้ผู้หญิงที่ผมชอบทำอาหารเก่ง.. รักคุณแม่มาก”
ชอลมิน : “เป็นผู้หญิงที่น่ารัก สดใส ถ้ามีแฟนผมก็เป็นคนที่น่ารักได้เหมือนกัน” ซอนอุงแซวว่าช่วยทำให้ดูหน่อย(เขิล)
ซองยง : “เป็นคนที่รักและดูแลเอาใจใส่ผมได้ดี สาวในสเปคก็คือพวกคุณที่นั่งอยู่ตรงนี้” (เพื่อนๆ แซว)
กังฮยอน : “เป็นคนที่เข้าใจงานที่ผมทำ”
จากที่ได้ทราบกันแล้วว่าหนุ่มซอนอุงได้เล่นละครเรื่องMa Boy กับนางเอกสาว คิมโซฮยอน ซึ่งสนุกสนานเป็นที่ติดอกติดใจของใครหลายๆ คนกันแล้วในขณะนี้ จึงถูกถามถึงในอนาคตว่ามีแผนจะเล่นละครอีกมั๊ยซอนอุงตอบว่า “ตอนนี้ยังทำหน้าที่เป็นนักร้องอยู่ แต่ถ้าต่อไปข้างหน้ามีโอกาสก็อยากเล่นละครอีก”และกล่าวถึงซีรี่ส์ที่เคยเล่นว่า “คาแรกเตอร์ที่ได้รับในเรื่องเป็นผู้ชายที่ต้องแต่งเป็นผู้หญิง ความจริงก็แตกต่าง แต่พอเล่นไปก็รู้สึกว่าตัวเองก็มีความเป็นผู้หญิงขึ้นมามากขึ้น” ซองยงแซวว่า “ตอนที่เล่นซีรี่ส์ดูอินในบทมากๆ แต่ตอนนี้ก็กลับมาเป็นคนเดิมแล้ว”
และเมื่อให้พูดถึงคนในวงซอนอุงกล่าวว่า“พี่ซองยงจะเหมือนเป็นเจ้าชาย พี่ชอลมินที่เป็นลีดเดอร์ของวงก็จะเหมือนกับที่เค้าแนะนำตัวไปคือเป็นคุณพ่อของวง อาจมีข้อเสียบ้างเล็กน้อยแต่ก็เป็นลีดเดอร์ที่สุดยอดที่สุดของวง ส่วนพี่แจอุคจะเป็นพี่ที่มีรอยยิ้มและหัวเราะอยู่ตลอดเวลา เป็นเหมือนคนที่มี happy virus คอยให้ความสุขกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ตลอดเวลา ส่วนกังฮยอนเป็นน้องเล็กของวง เป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่แต่ก็ยังมีความน่ารักในสไตล์ของเค้า แต่ถ้าหากขึ้นเวทีน้องเล็กของวงเป็นคนที่เท่ห์มากๆ เป็นน้องเล็กที่พวกเราภาคภูมิใจที่สุด”
มาต่อกันที่การเป็นลีดเดอร์ของชอลมินค่ะ มีความยากลำบากมั๊ย ชอลมินกล่าวว่า “ความจริงแล้วการเป็นลีดเดอร์และคอยดูแลน้องๆ ก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร เพราเมมเบอร์คนอื่นๆ ก็เชื่อฟังที่บอกดี ก็ไม่มีอะไรยากลำบาก”และมีวิธีแก้ปัญหาโดย “ถ้าหากมีสมาชิกทะเลาะกัน (ความจริงที่ผ่านมาถึงแต่ตอนนี้ยังไม่มี)ก็คงต้องว่ากล่าวทั้งสองคน”
กังฮยอนมักเน่ของวงน้องจากจะมีความสามารถในการร้องแร๊พแล้วยังมีความสามารถด้านการแต่งเพลงอีกด้วย โดยพูดถึงแรงบันดาลใจว่า “ตอนนี้เรียนการเขียนเนื้อเพลงยังไม่ถึงขึ้นแต่งเพลงหรือแต่งทำนอง ก็ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตประจำวัน บางทีก่อนจะนอนมีความคิดหรือแรงบันดาลใจอะไรก็จะเขียนไว้”
มาดูกันว่าเวลาว่างแต่ละคน ชอบทำอะไรกันบ้าง
ชอลมิน : “ส่วนใหญ่ดูทีวี”
ซอนอุง : “งานอดิเรกชอบถ่ายรูป ถ้ามีโอกาสแต่ก็ไม่บ่อยมักไปแม่น้ำฮันและไปถ่ายรูปที่นั่น”
แจอุค : “เข้าเวบยูทูปและดูคลิปต่างๆ”
ซอนอุงแซว : “คลิปอะไร”
แจอุค : “คลิปศิลปินอื่นๆ ร้องเพลงและแสดงอย่างไรบ้าง คลิปอื่นไม่ได้ดูนะครับ ชอบฟังเพลงเพื่อศึกษาแนวดนตรีของวงอื่นๆ ด้วย”
กังฮยอน : “ทุกครั้งที่มีเวลาว่างจะเขียนเพลง”
ซองยง : “ทุกครั้งที่ว่างจะนอน ล้อเล่นครับ ชอบออกกำลังกาย ก็จะดูกีฬาและออกกำลังกาย”
เดทแรกของแต่ละคน
ซองยง : “เดทครั้งแรกคือตอนออกมาจากท้องแม่(เพื่อนๆ แซว) คิดถึงตอนนั้นมากๆ”
ซอนอุง : “เดทครั้งแรกตอนม.ต้น ตอนนั้นยังเป็นนักเรียนอยู่เลยไม่มีเงินเยอะ พยายามรวบรวมเงินทั้งหมดที่มีให้กับแฟนทั้งหมดเลย ทั้งดูหนังทานข้าว”
ซอนอุง : “กังฮยอนมีเดทแรกหรือเปล่า”
กังฮยอน : “ยังไม่มีครับ อยากมีเดทแรกเหมือนกัน”
ชอลมิน : “คงตั้งใจเรียนมากๆ” (แซว)
เมื่อพูดถึงเดทแรกแล้ว พิธีกรจึงถามต่อว่าถ้ามีเวลาว่างอยากพาแฟนไปที่ไหน
ชอลมิน : “มีสถานที่ที่ชอบมากอยู่ที่หนึ่งคือ เกาะนามิ ถ้าพวกคุณได้ไปที่นั่นน่าจะชอบด้วย”
ซองยง : “เมืองไทยอยากพาไปเดทที่พัทยา”
ซอนอุง : “เป็นคนที่ชอบนั่งบานาน่าโบ๊ทมาก ถ้ามีแฟนอยากพาไปนั่งบานาน่าโบ๊ท”
อยากให้แฟนคลับทำอะไรให้ประทับใจ
แจอุค : “แฟนๆ ไม่ต้องพยายามทำอะไรมากก็ได้ แค่คอยให้กำลังใจและคอยติดตามพวกเค้าก็ประทับใจมากๆ”
ซองยง : “รู้สึกขอบคุณแฟนคลับอยู่เสมอแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงให้เห็นว่าขอบคุณก็รู้สึกเสียใจ”
ซอนอุง : “ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศอย่างประเทศไทย ก็มีแฟนคลับเขียนข้อความเป็นภาษาเกาหลีให้ก็ประทับใจมาก ความจริงก็อยากเรียนภาษาไทยอยากเขียนและพูดภาษาไทยกับแฟนๆ แต่ก็ขอโทษจริงๆ ที่ไม่มีโอกาศได้เรียน ครั้งหน้าจะพยายามตั้งใจเรียนและพูดให้ได้”
พิธีกรถามต่อถึงความพิเศษที่จะมอบให้แฟนไทยในการพบปะครั้งนี้ชอลมินเป็นตัวแทนตอบว่า “เตรียมการแสดงมา และมีช่วงมอบของรักของหวงให้แฟนๆ ด้วย เตรียมมาจากเกาหลี เป็นสิ่งที่ใช้จริงๆ” แจอุคกล่าวเสริม “เป็นสิ่งของที่ใช้เอง”ซองยงยืนยันอีกคนว่า “เป็นของที่รักและหวงมากจริงๆ”
พิธีกรถามถึงชื่อเล่นในวง ชอลมินตอบแทนทุกคนว่า“ไม่มีฉายาเป็นพิเศษ แต่ไม่นานมานี้ซอนอุงได้เล่นซีรี่ส์ ในเรื่องชื่อไอดี ก็เลยเรียกเป็นชื่อตามในซีรี่ส์”
ชอลมินกล่าวถึงเป้าหมายต่อไปของวงทัช“อยากให้แฟนมีทติ้งครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และครั้งหน้าอยากมีโอกาสได้มาจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทย อยากมีโอกาสได้มาประเทศไทยบ่อยๆ”
และถ้าไม่มี TOUCH ในวันนี้แต่ละคนจะทำอะไรกัน
ซองยง : “ถ้าไม่ได้มีวง TOUCHในวันนี้ก็คงไปที่บ้านเกิด”
ชอลมิน : “ผมคงจะขายของ คิดว่าน่าจะเปิดร้านอาหาร”
ซอนอุงแซว “เปิดร้านผัดไท”
กังฮยอน : “ยังไงก็คิดว่าคงจะเป็นนักร้อง เป็นแร๊ปเปอร์”
แจอุค : “ผมก็น่าจะเป็นนักร้องเหมือนกัน”
ซอนอุง : “เคยเรียนถ่ายรูปมา ก็คงจะเป็นตากล้อง เป็นช่างภาพถ่ายรูป”
เมื่อศิลปินต่างชาติมาประเทศไทยก็ไม่ลืมที่จะถามถึงการพูดภาษาไทย หนุ่มทั้ง 5 พูดได้น่ารักน่าชังมาก เป็นคำสั้นๆ ว่า
“หู / แก้ม / ผาก …ปาก พูดถูกใช่มั๊ยครับ” (ฮา) โดยหนุ่มที่พูดได้สำเนียงชัดที่สุดคือมักเน่กังฮยอน
ซอนอุงอ่านกระดาษโน๊ตที่ได้เตรียมมาว่า “ผมพูดภาษาไทยไม่เก่งครับ”
ซองยง : “ทุกครั้งที่มาประเทศไทย แฟนคลับทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มาครั้งหน้าก็หวังว่าจะมีแฟนคลับที่ไทยก็จะมีเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากมีแฟนคลับเยอะขึ้นจริงๆ ก็อยากจะมาอยู่ที่นี้เลย”
ชอลมินเป็นตัวแทนฝากถึงแฟนๆ ที่มางานแฟนมีทครั้งนี้ว่า“แฟนคลับทุกคนคงจะคาดหวังและรอคอย ก็จะทำให้ดีที่สุดให้ทุกคนไม่ผิดหวัง และขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่มาทำข่าวในวันนี้“
และในช่วงของแฟนมีทติ้งนั้นหนุ่มๆ ก็สร้างความประทับใจให้แฟนๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย หรือจับฉลากคำถามจากแฟนๆ เพื่อมอบของรักของหวงที่นำมาจากเกาหลีกันเลยทีเดียว ซองยง ให้ น้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองใช้ประจำมาให้ โดยให้เหตุผลว่าจะได้รู้สึกว่ามีหนุ่มซองยงอยู่ข้างๆ แฟนที่ร่วมกิจกรรมนี้ไม่ได้เขียนเป็นคำถามแต่ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ หนุ่มซองยงจึงจัดการต่อสายด้วยเสียงตัวเองทำเอาแฟนๆ คนอื่นอิจฉากันถ้วนหน้า และเมื่อปลายสายรับหนุ่มซองยงจะเพิ่มความอิจฉาให้กับคนอื่นอีกด้วยการบอก ประโยคไม้ตาย “รักนะจุ๊บๆ” ให้ผู้โชคดีคนนั้นฟัง ต่อมาคือ กังฮยอน นำหมวกมาให้โดยคำถามที่ตอบคือ“ประทับใจเป็นพิเศษคือ จดหมายที่แฟนๆ เขียนให้ ไม่ต้องเป็นสิ่งของอะไร แค่จดหมายก็ประทับใจแล้ว” เรียกเสียงกรี๊ดด้วยความประทับใจจากแฟนๆ ไปอีกคน ต่อด้วยหนุ่มขี้เล่นแจอุค ดันหยิบคำถามที่ถามซองยงว่าชอบสีอะไร ทำเอาเจ้าตัวและเพื่อนๆ ทั้งวงถึงกับปล่อยขำออกมาเลยทีเดียว แต่หนุ่ม ซองยง ก็ตอบคำถามว่า“ชอบสีแดง ที่เป็นสีของหัวใจของทุกคน” เจ้าของคำถามนั้นก็ได้รับของขวัญจาก แจอุค ซึ่งเป็นเสื้อที่ใส่ซ้อมเป็นประจำ แต่ยังทิ้งความสนุกตามนิสัยผู้ชายอารมณ์ดีว่า “ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถหาน้ำหอมมาเป็นของขวัญได้”ทำเอาขำกันกระจาย ส่วนลีดเดอร์ ชอลมิน จับ เจอคำถามเด็ดว่า อยากมีลูกกี่คน?เล่นเอาเจ้าตัวไปไม่ถูกเลย แต่ก็ตอบแบบเขินๆ ว่า “ตกใจกับคำถามเพราะไม่เคยคิดมาก่อนเลย แต่ถ้ามีลูกจริงๆ ก็อยากจะมีลูกซัก 2 คน ผู้โชคดีได้รับของขวัญเป็นหมวกที่ชอบมากและใส่เป็นประจำ มาถึงหนุ่มคนสุดท้าย ซอนอุง จับได้เป็นประโยคภาษาเกาหลีจึงอ่านเองตอบเองว่า “ถ้าผมมีแฟน จะพาแฟนมาประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีเกาะสวยๆ ถ้ามีโอกาสมาเมืองไทยกับแฟนจะมาเดินจับมือกัน” โดยผู้โชคดีสำหรับคำถามนี้ได้ของขวัญเป็นแอสแซสเซอรี่ข้อมือโดยหนุ่ม ซอนอุง สวมให้ด้วยตัวเอง ทำเอาแฟนๆ คนอื่นอิจฉากันอีกรอบ
จากนั้นก็เป็นช่วงโชว์ 5 หนุ่มวง TOUCH เลือกเพลงในอัลบั้มเก่าอย่าง Luv แต่ในเวอร์ชั่นช้าๆ เพราะๆ มาโชว์ในเพลงแรก แล้วก็เซอร์ไพรส์ให้แฟนๆ ในเพลงที่สองเลย ซึ่งเพลงนี้หนุ่มๆ แอบซุ่มซ้อมมาให้แฟนเพลงชาวไทยโดยเฉพาะในเพลง ชายคนหนึ่ง ของปีเตอร์ คอปฯ แต่ถึงแม้สำเนียงไม่ชัดเท่าต้นฉบับแต่แฟนในห้องต่างช่วยกันร้องสนั่นพร้อม กับเสียงกรี๊ดลั่นห้อง เรียกได้ว่าใครได้มางานมีทติ้งครั้งนี้คุ้มกันเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ 5 หนุ่มวง TOUCH ยังเตรียมมาให้แฟนคลับได้ฟินกันอีก 1 เพลงซึ่งเป็นซิงเกิ้ลล่าสุดของพวกเขา ชื่อว่า let’s walk together เพลงนี้ได้ฟังแทบจะลุกโยกตามเพราะจังหวะเพลงสนุกแถมท่าเต้นของหนุ่มๆ ทำให้สาวไทยแต่ใจเกาหลีหลงรักแทบจะบินตามไปถึงเกาหลีกันเลยทีเดียว สุดท้าย 5 หนุ่มยังได้จับรางวัลสำหรับผู้โชคดี5 ท่านที่จะได้ไป dinner สุดโรแมนติกกับ หนุ่มๆ จากนั้นเป็นการแจกลายเซ็นพร้อมกับมอบเค้กและถ่ายรูปกับแฟนคลับ
จบงานนี้กันไปแบบฟินๆ กันทุกคน คลิกชมภาพบรรยากาศในห้องสัมภาษณ์และงานแฟนมีทเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ค่ะ
บันทึกภาพ: STARUPDATE.COM
