Disney+ Hotstar เปิดแพ็กเกจใหม่ สตรีมจอใหญ่ เต็มตาคมชัดแบบ Full HD พร้อมตื่นตาไปกับหลากหลายคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย จนต้องติดดาว >>

17/09/2024

แชร์ข่าวนี้

Disney+ Hotstar ไม่หยุดพลัส! เตรียมยกระดับประสบการณ์สตรีมหนัง ซีรีส์ แอนิเมชัน วาไรตี้คุณภาพบนแพลตฟอร์มให้ เต็มตา คมชัดแบบ Full HD กับแพ็กเกจล่าสุดอย่าง “แพ็กเกจมาตรฐาน” ที่ตอบโจทย์ด้านอรรถรสการสตรีมมากขึ้น พร้อมมอบความตื่นตาไปกับหลากหลายคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย จนต้องติดดาว

สตรีมจอใหญ่ เต็มตาคมชัดแบบ Full HD ได้ สำหรับทุกคน

ล่าสุด Disney+ Hotstar เปิดตัวแพ็กเกจใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การสตรีมคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย “แพ็กเกจมาตรฐาน” ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ให้สามารถสตรีมคอนเทนต์ได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้งมือถือ แล็ปท็อป แท็บเล็ต และโทรทัศน์ที่รองรับได้ จำนวน 2 หน้าจอพร้อมกัน รวมถึงคุณภาพเสียงสูงสุด Dolby Atmos และคุณภาพวิดีโอสูงสุดแบบ Full HD ซึ่งแพ็กเกจมาตรฐานรายเดือนราคา 199 บาทต่อเดือน และแพ็กเกจมาตรฐานรายปี (12 เดือน) ราคา 1,590 บาทต่อปี (เฉลี่ย 133 บาทต่อเดือน)* นอกจากนี้ในส่วนของ “แพ็กเกจพรีเมียม” ฟีเจอร์ทุกอย่างและราคาจะยังคงเดิมที่ราคา 289 ต่อเดือน และรายปี ราคา 2,290 บาทต่อปี (เฉลี่ย 190 บาทต่อเดือน)*

ซึ่งนี่เป็นการตอกย้ำพันธกิจในการสร้างประสบการณ์การสตรีมแบบดีเยี่ยม ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัยจากฮอลลีวูด คอนเทนต์ออริจินัลจากเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ฮิตติดกระแส talk of the town, คอนเทนต์คุณภาพระดับโลกที่คว้ารางวัล award-winning, คอนเทนต์ที่นักวิจารณ์ยกให้เป็น critics’ picks, คอนเทนต์ high production ระดับฮอลลิวูด, คอนเทนต์ยอดนิยมที่ทำลายสติถิ record breaking บนดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ และอีกมากมาย เพื่อให้ทุกคนรู้สึกตื่นตา จนต้องติดดาวในหลากหลายคอนเทนต์ ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกวัย

*เมื่อสมัครแพ็กเกจมาตรฐานรายปี (12 เดือน) ราคา 1,590 บาท เฉลี่ย 132.5 บาท/เดือน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ help.hotstar.com กำหนดให้สมัครสมาชิก ©️ 2567 ดิสนีย์และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้อง สงวนสิทธิ์ทุกประการ

คลังฮิตติดกระแสเขย่าปรากฏการณ์ Talk of the Town

ประเดิมลิสต์แรกด้วยภาพยนตร์ภาคต่อระดับมาสเตอร์พีซจากดิสนีย์และพิกซาร์กับ “Disney and Pixar’s Inside Out 2 มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง 2” ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นแท่นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในโลกตลอดกาล และทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้เร็วที่สุด รวมถึงครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดอันดับที่ 8 ในประวัติศาสตร์บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย สำหรับภาคนี้ไรลีย์ที่ก้าวเข้าสู่การเจริญเติบโตกลายเป็นวัยรุ่น แน่นอนว่านอกจากพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว ความคิดและอารมณ์ก็เพิ่มขึ้นตามวัย ซึ่งแฟน ๆ จะได้พบกับการกลับมาของ ลั้ลลา, เศร้าซึม, กลั๊วกลัว, หยะแหยง และฉุนเฉียว พร้อมเหล่าสมาชิกใหม่ ๆ อย่าง ว้าวุ่น, อองวี (เฉยชิล) และ อิจฉา และเขิ้นเขินอ๊ายอาย ที่เตรียมตัวมาร่วมทีมใน Inside Out 2 แฟน ๆ สามารถสตรีม Inside Out 2 บน Disney+ Hotstar ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้ เป็นต้นไป

ซีรีส์เกาหลียอดฮิตติดกระแสที่สามารถยึดครองโซเชียลมีเดียตั้งแต่เปิดตัวอย่าง Moving เจ้าของรางวัลแดซังล่าสุด บนเวที 60th Baeksang Arts Awards ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จนกลายเป็นซีรีส์จากเกาหลีที่มียอดรับชมมากที่สุดบน Disney+ ทั่วโลกและบน Hulu ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอิงตามจำนวนชั่วโมงสตรีมหลังจากผ่านไป 7 วัน อีกทั้งยังได้สร้างกระแส “วันพุธแห่งชาติ” จากการตั้งตารอคอยของแฟน ๆ ทุกวันพุธนับตั้งแต่วันเปิดตัววันแรก โดยได้เล่าถึงเรื่องราวของเหล่าเจ้าหน้าที่สายลับจากเกาหลีใต้ที่ทำงานเพื่อปกป้องเหล่าเด็ก ๆ ผู้มีพลังพิเศษจากอันตรายและการแสวงหาผลประโยชน์จากหน่วยงานรัฐบาล โดยซีรีส์ดังกล่าวได้รับคำชมอย่างกว้างขวางในความแปลกใหม่ของซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ พร้อมเส้นเรื่องสุดเข้มข้นที่ชูให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของตัวละครที่เรียกได้ว่าจัดอยู่ในหมวดหมู่ลิสต์ที่คนรักซีรีส์ต้องห้ามพลาด

นอกจากนี้ แฟน ๆ ยังสามารถสตรีมคอนเทนต์ติดดาวที่เขย่ากระแส Talk of the Town อีกมากมายแบบไม่ตกขบวน ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์จากแฟรนไชส์อย่าง Guardians Of The Galaxy Vol.3, The Mandalorian, Moana, Frozen, Cruella, Maleficent, Avengers: End Game, Doctor Strange in the Multiverse of Madness, WandaVision, Phineas and Ferb, Blueyอีกทั้งซีรีส์เกาหลีอย่าง The Tyrant, Red Swan, Flex X Cop, A Shop For Killers, Big Mouth และ Snowdrop ไปจนถึงคออนิเมะและซีรีส์ญี่ปุ่น อาทิ Go! Go! Loser Ranger!, Tengoku-Daimakyo, Tokyo Revenger: Christmas Showdown Arc และ Yakuza Lover และซีรีส์จากสหรัฐอเมริกาอย่างFX’s Shogun, The Artful Dodger, The Simpsons, Taylor Swift: The Era Tours, Modern Family และThe Menu

คลังหนัง-ซีรีส์ดีกรีรางวัล Award-Winning ติดดาวที่ต้องตามเก็บให้ครบ

หากใครยังไม่มีลิสต์ในใจแต่อยากเสพคอนเทนต์คุณภาพการันตีรางวัล Disney+ Hotstar ยังจัดให้ครบจบในที่เดียว ประเดิมลิสต์ด้วย Poor Things ภาพยนตร์ดาวเด่นขึ้นหิ้งประจำปี ที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์กว่า 11 สาขา และยัง รวมถึงสาขาที่เป็นที่จับตามองอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) อีกทั้งยังกวาดรางวัลจากเวที BAFTA ซึ่งเป็นเวทีประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ทั้งหมดถึง 5 สาขา ได้แก่ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Best Production Design) สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design) สาขาแต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hair) และสาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Special Visual Effects)

อีกหนึ่งซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่น่าจับตาคงจะหนีไม่พ้น FX’s Shogun ซีรีส์พีเรียดดราม่าอิงประวัติศาสตร์ ความยาว 10 ตอน ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมขายดีระดับโลกของโดยเจมส์ คลาเวลล์ ที่ได้กลายเป็นซีรีส์ที่คว้ารางวัล Emmy® Awards มากที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการชนะ 19 รางวัล ซึ่งรวมถึงรางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม Outstanding Drama Series แห่งปี 2024 อีกด้วย โดย FX’s Shogun ล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามกลางเมืองในช่วงปี 1600 ที่เล่าผ่าน จอห์น แบล็กธอร์น คนนำร่องชาวอังกฤษ ที่ผันตัวกลายมาเป็นหมากสำคัญในเกมการเมืองชิงไหวชิงพริบของไดเมียว โยชิอิ โทรานางะ

สำหรับสายตามเก็บซีรีส์เกาหลีน้ำดีระดับรางวัล สามารถร่วมลุ้นไปกับ Revenant ซีรีส์ระทึกขวัญกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติของเหล่าปีศาจและความตายจากปลายปากกาของ คิมอึนฮี สุดยอด นักเขียนชาวเกาหลีชื่อดัง ว่าด้วยเรื่องราวของ กูซานยอง กับคำสาปชะตาชีวิตที่ไม่ว่าไปที่ไหนโศกนาฏกรรมต้องตามติดเธอไปทุกหนแห่ง นำแสดงโดยนางเอกระดับแนวหน้าอย่าง คิมแทรี ที่ได้คว้ารางวัลแดซัง ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดจากเวที 2023 SBS Drama Awards อีกด้วย

นอกจากนี้ หากพูดถึงอนิเมะระดับตำนานยังสามารถตามเก็บแฟรนไชส์อนิเมะ Macross ที่ Disney+ Hotstar มัดรวมมาให้คอญี่ปุ่นดูกันแบบจุใจ กับเนื้อเรื่องแนวหุ่นยนตร์สงครามที่เล่าเรื่องควบคู่ไปกับเส้นเรื่องความรักผ่านบทเพลงที่กลายมาเป็นจุดขายที่ครองใจเหล่าคออนิเมะเรื่องนี้ โดยอัลบั้มเพลงจาก Macross ยังได้รับรางวัล Japan Gold Disc Award สาขาอัลบั้มแห่งปีในหมวดอนิเมะในปี 1994 และ 2017 อีกด้วย

โดยสำหรับแฟน ๆ ที่อยากตามเก็บโพยหนัง-ซีรีส์ดีกรีรางวัลบน Disney+ Hotstar ยังห้ามพลาดกับคอนเทนต์อื่น ๆ ในแฟรนไชส์อย่าง Encanto, Moon Knight, Soul, Inside Out 1, Black Panther: Wakanda Forever, The Rescue, Secrets Of The Whales, Nǎi Nai & Wài Pó พร้อมทั้งคลังเกาหลี The Zone Survival, The Golden SpoonและThe Worst Of Evil หรือบอกต่อกับขบวนคอนเทนต์ญี่ปุ่น อาทิ Gannibal, Sumo Do, Sumo Don’tไปจนถึงคลังหนัง-ซีรีส์รางวัลฝั่งตะวันตกอย่าง All Of Us Strangers, Turning Red, Criminal Minds: Evolution, Abbott Elementary และ Nomanland

คัดมาแล้วกับคลัง Critics’ Picks ที่นักวิจารณ์ต้องติดดาวให้

เริ่มต้นด้วยภาพยนตร์แอนิเมชันติดดาวที่เหล่านักวิจารณ์ต้องยกนิ้วให้อย่าง What If…? ซีรีส์แอนิเมชันจากมาร์เวลที่ได้รับการันตีคุณภาพระดับ Fresh ด้วยคะแนนวิจารณ์จาก Rotten Tomatoes ถึง 89% (อ้างอิงจาก www.rottentomatoes.com วันที่ 29 ส.ค. 67) ส่งตรงให้แฟน ๆ ได้ตั้งคำถามว่า “จะเป็นอย่างไรหากจักรวาลมาร์เวลก้าวสู่โลกคู่ขนานที่แตกแขนงออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” เมื่อ “เดอะ วอชเชอร์” หรือ “ผู้เฝ้าดูจักรวาล” มาทำให้ผู้ชมนึกถึงเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยการสมมุติเหตุการณ์ที่นอกเหนือจากเส้นเวลาปกติ ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล

หากพูดถึงซีรีส์เกาหลีเรื่องดังที่รวมเหล่านักแสดงระดับแนวหน้า พร้อมผู้กำกับพัคจุนอูจาก Taxi Driver ที่เหล่านักวิจารณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นซีรีส์อาชญากรรมที่ทำให้คนดูลุ้นจนแทบนั่งไม่ติดคงจะหนีไม่พ้น Crash ที่ได้อีมินกี กวักซอนยอง และฮอซองแท มารับบทนำ โดยเล่าถึงเรื่องราวของทีมสืบสวนอาชญากรรมจราจร (TCI) ที่ถูกกองกำลังอื่น ๆ มองข้ามและเห็นพวกเขาเป็นตัวตลก จึงทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาเป็นเวลานาน แต่โชคชะตาของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อ ‘ชายอนโฮ’ นักคณิตศาสตร์ระดับอัจฉริยะที่หน้าตาดีแบบไร้ที่ติ แต่กลับไม่มีทักษะทางสังคมเข้าร่วมทีมของพวกเขา โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้รับคะแนนวิจารณ์อย่างล้นหลามจาก Kinolights ถึง 87.94% (อ้างอิงจาก m.kinolights.com วันที่ 29 ส.ค. 67)

สำหรับฝั่งอนิเมะที่เหล่านักวิจารณ์ต้อง “ติดดาว” ให้คงจะพลาดเรื่อง THE FIRST SLAM DUNK ไปไม่ได้ เจ้าของรางวัลชนะเลิศ Japan Academy Prize สาขาแอนิเมชันแห่งปี 2023 โดยถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล พร้อมโกยรายได้ทะลุ 15.8 พันล้านเยน บนบ็อกซ์ออฟฟิศประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่วันแรกของการเข้าฉาย ซึ่งทางฝั่ง Filmarks เว็บไซต์รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และอนิเมะที่โด่งดังในญี่ปุ่น ได้ให้คะแนนอนิเมะระดับตำนานนี้สูงถึง 4.3 ดาวทีเดียว (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2567) เรียกได้ว่าเป็นอนิเมะที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกไปกับเรื่องราวของกัปตันทีมบาสเกตบอล ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คออนิเมะทั่วโลกผ่านความมุ่งมั่นและพยายามในการนำทีมของกัปตันไปสู่การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่

แฟน ๆ เตรียมตุนลิสต์คอนเทนต์ติดดาวจากเหล่านักวิจารณ์ดูกันยาว ๆ บน Disney+ Hotstar อีกมากมาย ทั้งคอนเทนต์แฟรนไชส์ตั้งแต่ X-Men ‘97, Ahsoka, Andor และ Onward ไปจนถึงคอนเทนต์เกาหลีน้ำดีการันตีโดยแพลตฟอร์ม Kinolights อย่าง Crash, One Dollar Lawyer, Shadow Detective พร้อมหนัง-ซีรีส์ญี่ปุ่นคุณภาพคับแก้วที่ได้คะแนนรีวิวผ่านฉลุยจากเว็บไซต์ Filmarks อย่าง The Fable, Sand Land: The Series, Tomorrow, I’ll Be Someone’s Girlfriend อีกทั้งซีรีส์จากสหรัฐอเมริกาที่ได้กระแสรีวิวนำโด่ง ไม่ว่าจะเป็น Under The Bridge, Only Murders in the Building, Will Trent ,The First Omen, Welcome to Wrexham และ The Clearing

คลัง High Productionตื่นตาเสิร์ฟความอลังการระดับฮอลลิวูด

ต่อกันที่รายชื่อหนังและซีรีส์ฟอร์ยักษ์ม งานโปรดักชั่นสุดอลังการ เริ่มจาก Kingdom of the Planet of the Apes มหากาพย์พิภพวานรจาก 20th Century Studios และการกลับมาของมหากาพย์แฟรนไชส์ Planet of the Apes กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังยุคของ ซีซาร์ ซึ่งเป็นยุคที่เหล่าวานรต่างอยู่ดีเป็นสุขในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ในขณะที่มนุษย์เองต้องใช้ชีวิตอยู่ในเงาของวานร โดยสำหรับภาพยนตร์แนวแอ็กชัน-ผจญภัยเรื่องนี้ ทาง 20th Century Studios ผสมผสานนวัตกรรมวิชวลเอฟเฟกต์มากถึง 1,500 เทคนิคในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา และล่าสุด Kingdom of the Planet of the Apes ได้ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวทั่วโลกสูงสุดของแฟรนไชส์ไปเป็นที่เรียบร้อย

Secrets of the Octopus สารคดีฉบับมินิซีรีส์ 3 ตอนจบ จากทาง National Geographic เป็นภาคที่ 3 ในแฟรนไชส์ Secrets ต่อจาก Secrets of the Whalesและ Secrets of the Elephantsโดยได้เปิดให้สตรีมบน Disney+ Hotstar ในวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ไปเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา โดยทีมโปรดักชั่นได้ทำการถ่ายทำปลาหมึกหลากหลายสายพันธุ์ในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเป็นเวลายาวนานถึง 200 วัน เพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่สวยงาม และพิเศษไปกว่านั้นคือการเก็บภาพช่วงเวลาที่ “ไม่เคยมีใครถ่ายมาก่อน”

คลัง Record Breaking ติดสถิติทะลุโผ

ปิดท้ายด้วยลิสต์หนัง-ซีรีส์ จากแฟรนไชส์กับ Percy Jackson and the Olympians ซีรีส์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายสุดฮิตของ Rick Riordan ที่ได้ทำยอดชมสูงสุดถึง 110 ล้านชั่วโมงทั่วโลกบน Disney+ นับตั้งแต่เข้าสตรีม* ด้วยเสน่ห์กลิ่นอายของการผจญภัยของ ลูกครึ่งเทพอย่าง Percy Jackson ในโลกแฟนตาซีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเหล่าทวยเทพและความขลังของเวทมนต์ โดยล่าสุดทางบริษัทฯ ได้ออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้จะได้ไปต่อกับซีซันที่ 2 อย่างแน่นอน พร้อมกับการกลับมาของ วอล์คเกอร์ สโกเบล, ลีอาห์ ซาวา เจฟฟรีย์ และ อารยัน สิมาดรี อีกครั้งในบทบาทที่แฟน ๆ ตั้งตารอคอย พร้อมการผจญภัยครั้งใหม่ท่ามกลางทะเลปีศาจ (The Sea of Monsters) ซึ่งดัดแปลงจากหนังสือนิยายสุดฮิตของ Rick Riordan ในภาคสองต่อจาก Percy Jackson and the Olympians ที่ตีพิมพ์โดย Disney Hyperion

*สถิติจากข้อมูลภายในบริษัท

ตามมาด้วยซีรีส์เกาหลีที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่าง A Shop For Killers ที่เปิดสตรีมไปเมื่อต้นปี พร้อมได้อีดงอุค พระเอกมากความสามารถมารับบท “คุณอาผู้ลึกลับ” ของ จองจีอัน ที่รับบทโดย คิมฮเยจุนในฐานะนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องคอยหลบหนีจากเหล่าฆาตรกรและมือสังหารมากฝีมือหลังจากที่คุณอาได้ปลิดชีวิตตนเองอย่างปริศนา โดยซีรีส์ดังกล่าวได้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย และได้ขึ้นแท่นออริจินัลซีรีส์บน Disney+ ที่มีผู้ชมสูงสุดในภูมิภาคแอเชียแปซิฟิกในปี 2024

แต่คลัง Record Breaking ติดสถิติทะลุโผ ไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีคอนเทนต์ทุบสถิติอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์จากแฟรนไชส์อย่าง Elemental พร้อมทั้งซีรีส์เกาหลีสุดฮิตติดชาร์ตอย่าง Moving ซีรีส์ญี่ปุ่นอย่าง FX’s Shogun และ Yakuza Lover และซีรีส์ส่งตรงจากสหรัฐฯ อย่าง The Bear และ Bluey พร้อมด้วยคอนเทนต์อีกมากมาย เพื่อมอบความตื่นตาไปกับหลากหลายคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย จนต้องติดดาวบน Disney+ Hotstar