แฟนคลับนับหมื่นต่อแถวรอกรี๊ดกระหึ่มงาน Comic-Con 2011 ! ต้อนรับทีมนักแสดงแวมไพร์ทไวไลท์ภาค 4.1 ใน The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1 รุมขอลายเซ็นต์พร้อม รับเสบียงหลังกางเต้นท์รอกว่า 24 ชั่วโมง

แชร์ข่าวนี้

 

เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม ที่ผ่านมา The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1 (เดอะทไวไลท์ซาก้า เบรกกิ้ง ดอนน์ ภาค 1) ก็ได้เข้าร่วมงาน San Diego Comic-Con 2011 (ซานดิเอโก้ โคมิคคอน 2011) โดยสามนักแสดงนำ คริสเต็น สจ๊วต, โรเบิร์ต แพททินสัน และ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ ผู้กำกับ บิล คอนดอน รวมถึงนักแสดงสมทบอีกมากมาย ก็ได้เดินทางมาให้แฟนๆ ได้กรี๊ดกัน พร้อมกับการฉาย 2 คลิปใหม่เป็นที่แรกในโลก

งานจัดขึ้นภายใน Hall H ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่จัด New Moon และ Twilight สามารถจุคนได้หลายพันคนและเป็นฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในงาน Comic-Con โดยตั๋วเข้าร่วมงานในครั้งนี้ก็ขายหมดภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง และก็เหมือน 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อบรรดาสาวก แวมไพร์ ทไวไลท์ จำนวนมากตั้งแค้มป์รออยู่ด้านนอกตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อที่จะได้เห็นนักแสดงในดวงใจของพวกเธอแบบเต็มๆ ตา  โดยเช้าวันพฤหัสก่อนเข้างาน แฟนๆ หลายพันคนก็พบกับเรื่องเซอร์ไพรซ์ เมื่อทีมนักแสดงจากหนัง ไม่ว่าจะเป็น บูบู สจ๊วต (เซธ เคลียร์วอเตอร์), จูเลีย โจนส์ (ลีอา เคลียร์วอเตอร์), อลิซาเบธ รีสเซอร์ (เอสเม่ คัลเลน), นิคกี้ รี้ด (โรซาลี เฮล) และ แอชลี่ย์ กรีน (อลิซ คัลเลน) ก็ได้มาแจกจ่ายเสบียงให้กับแฟนๆ ที่มาตั้งแค้มป์รอเข้างาน

 

 

 

ระหว่างการแถลงข่าว บิล คอนดอน ก็ได้แนะนำได้ทุกคนได้ดู 2 คลิปพิเศษจากหนัง โดยฉากแรกจะเป็นฉากที่ เจคอบ ตัดสินใจที่หันหลังให้กับครอบครัวและเผ่าของเขา เพื่อร่วมมือกับครอบครัวคัลเลนในการป้องกันไม่ให้ แซม หัวหน้าวูล์ฟแพ็คเข้ามาทำร้าย เบลล่า โดยฉากนี้ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ อธิบายเอาไว้ว่า “มันเป็นเรื่องลำบาก เพราะหลังจากเขาทุ่มเทความรักให้กับ เบลล่า และต้องหัวใจสลายเมื่อเธอไม่ได้เลือกเขา เจคอบ กลายเป็นผู้ชายที่เติบโตขึ้น และเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำ ถ้านั้นหมายถึงการที่เขาต้องแยกจากพวกเดียวกันเอง”

ฉากที่สองก็คือฉากฮันนีมูนที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้มากที่สุด โดยเป็นฉากที่ เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า อยู่บริเวณบ้าน ก่อนที่เขาชวนเธอออกไปว่ายน้ำ เอ็ดเวิร์ด ถอดเสื้อและเดินลงน้ำ ก่อนที่เธอจะตามเขาไป โดย บิล คอนดอน ก็ได้พูดถึงฉากนี้ว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของทั้งสอง ก่อนที่การกระทำบางอย่างจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ผมคิดว่ามันสำคัญที่จะให้ เบลล่า มีความสุขแบบมนุษย์ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล”

 

นับถอยหลังสู่ภาพยนตร์ที่ทั้งโลกรอคอย

17 พฤศจิกายน 2011……

The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1

 

 

 

 

 

 

 

ช่วยพูดถึงประสบการณ์ในการไปถ่ายทำที่ประเทศบราซิลหน่อย

บิล คอนดอน: มันเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน การไปถ่ายทำที่บราซิลเป็นอะไรที่สุดยอด เพราะนั้นคือสถานที่ สเตฟานี่ เมเยอร์ ตั้งใจเขียนเป็นฉากฮันนีมูน และการได้ไปถ่ายทำสถานที่จริงก็เป็นเรื่องที่วิเศษ พวกเราค้นพบสถานที่ที่เธออธิบายไว้ในหนังสือ ผมอยากให้แฟนๆ ทุกคนได้เห็น

คริสเต็น สจ๊วต: มันเป็นเรื่องวิเศษที่พวกเราได้ไปยืนอยู่บนถนนที่ เบลล่า และ เอ็ดเวิร์ด ยืนอยู่ในหนังสือ การได้เห็นสิ่งที่กถูกบรรยายเอาไว้ขึ้นมามีชีวิตเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง

โรเบิร์ต แพททินสัน: ผมว่ามันยอดเยี่ยมที่เรามีแฟนๆ ทั้งโลก การได้เดินทางไปถ่ายทำในต่างประเทศ ทำให้เราได้เห็นปฏิกิริยาของแฟนๆ ที่แตกต่างออกไป แฟนคลับในบราซิลจะมีความคลั่งไคล้ที่เข้มข้นกว่า พวกเค้าพยายามเข้ามาในกองถ่ายเพื่อที่จะได้สัมผัสคุณ (หัวเราะ) แต่มันเป็นประสบการณ์ที่สนุก

เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์: ผมชอบบราซิลแต่ผมก็ไม่ได้ไปกับพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาก็โชว์รูปให้ผมดูตัวประกอบในกองที่บราซิล ที่มีหน้าตาเหมือนกับผมหยั่งกับฝาแฝด มันเป็นเรื่องน่าตลกที่แม้อยู่ในบราซิล เจคอบ ก็ยังตามไปเฝ้า เบลล่า กับ เอ็ดเวิร์ด (หัวเราะ)

บิล ในฐานะที่คุณเพิ่งเข้ามาในโลกของ Twilight อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการกำกับ Breaking Dawn

บิล: การมี สเตฟานี่ ให้คำปรึกษาและ คริสเต็น ที่เป็นแฟนหนังสือตัวยง พวกเรามีเวลาหลายอาทิตย์ในการพูดคุยสิ่งที่อยู่ในบท ผมคอยฟังคำแนะนำของ คริสเต็น และเมื่อเริ่มถ่ายทำพวกเราก็คอยทำให้แน่ใจว่า มันออกมาตามที่ทุกคนตั้งใจเอาไว้ไหม หนังเรื่องนี้มาจากมุมมองของ เบลล่า เราต้องการเข้าไปในความคิดของเธอ นั้นคือจุดมุ่งหมายของเรา

คริสเต็น: ใช่ แต่สุดท้ายแล้ว บิล ก็ปล่อยให้อารมณ์เกิดขึ้นด้วยตัวมันเอง บิล ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย ฉันคิดว่าเขาเหมาะสมที่สุดสำหรับการทำหนังสือเล่มสุดท้าย

คริสเต็น Breaking Dawn ถือเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุดของ เบลล่า การเปลี่ยนแปลงของเธอส่งผลถึงการแสดงของคุณบ้างไหม

คริสเต็น: ฉันคิดว่า Breaking Dawn เป็นภาคที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนมากที่สุด ใครก็ตามที่ได้อ่านหนังสือก็จะเข้าใจในการกระทำของ เบลล่า และสิ่งที่ทำได้ก็คือการปล่อยให้อารมณ์พาคุณไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองผูกพันธ์กับหนังสือเล่มนี้ ในขณะเดียวกันพวกเราก็ยังเพิ่มเติมองค์ประกอบที่จะทำให้คนดูแปลกใจ เช่นในฉากแต่งงานหรือฉากฮันนีมูน

บิล: ผมคิดว่าไม่มีแฟนหนังสือคนไหนเข้าใจ เบลล่า ไปมากกว่า คริสเต็น เธอบอกผมว่า “ฉันเข้าใจว่าเธอรู้สึกยังไงตั้งแต่ที่ได้อ่านเป็นครั้งแรก” การที่คุณทุ่มเทให้กับบทบาทที่ได้รับแบบนี้ ทำให้ทุกอย่างออกมาสมจริงที่สุด

 

เทย์เลอร์ รู้สึกยังไงกับการแสดงฉากต่อสู้ในภาคนี้

เทย์เลอร์: น่าเสียดายที่ฉากต่อสู้ในภาคนี้ผมเปลี่ยนเป็นหมาป่าเหมือนเดิม ผมรู้สึกอิจฉาเจ้าหมาป่ามาก แต่จริงๆ แล้วผมเองก็ได้แสดงฉากสตันท์เองไม่น้อยในสองภาคสุดท้าย โดยใน Part 1 เอ็ดเวิร์ด ก็ได้อัดผมเต็มๆ หลังจากที่พบว่า เจคอบ ผูกวิญญาณกับลูกสาวของเขา

โรเบิร์ต: มันยังมีฉากที่ เทย์เลอร์ กระโดดออกมาจากบ้าน มันเป็นฉากสตันท์ที่เท่ดี เขากระโดดจากบันไดสับขั้น ผมจำได้ว่าเขาบอกกับทีมงานว่า “อืม ผมคงไม่ต้องใช้สลิงค์ช่วยหรอก” จากนั้นเขาก็เข้าฉายออกวิ่งและกระโดด มันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่สุด

คริสเต็น ช่วยพูดถึงการถ่ายทำฉากแต่งงานหน่อย

คริสเต็น: ฉันเอยากแสดงในฉากนี้มานานกว่า 4 ปี และเมื่อถึงเวลาพวกเขาก็ยังเอาฉากนั้นถ่ายทำในช่วงท้ายสุดท้าย ดังนั้นฉันจึงต้องรอนานก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง เมื่อฉันได้เห็นฉากที่ถ่ายทำงานแต่งงานเป็นครั้งแรก มันก็เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น แต่ฉันก็ต้องอยู่ในห้องตลอดทั้งวันเพราะว่าตัวเองอยู่ในชุดแต่งงาน และก็ต้องพยายามไม่ให้ชุดเกิดความเสียหาย มันเหมือนกับว่าฉันกำลังจะแต่งงานจริงๆ เลย

 

ได้ยินว่าคุณมักใช้เพลงเข้ามาช่วยสร้างอารมณ์ ในภาคนี้คุณได้ใช้วิธีนั้นบ้างไหม

คริสเต็น: แน่นอน ก็เหมือนกับ สเตฟานี่ ฉันมักจะเปิดเพลงเพื่อสร้างอารมณ์ในแต่ละฉาก อย่างในวันที่เราถ่ายากแต่งงาน ก็มีเพลงที่สมบูรณ์แบบที่ฉันฟังตลอดเวลา ซึ่งคงจะดีถ้าเกิดมันอยู่ในหนังจริงๆ เป็นเพลงชื่อ Annabelle ของ Band of Horses มันเป็นเพลงที่สร้างความรู้สึกที่อิ่มเอมที่สุด และก็ช่วยพาฉันผ่านฉากที่สำคัญเช่นนี้

 

โรเบิร์ต ช่วยพูดถึงความแตกต่างของการรับบท เซดริก ใน Harry Potter และ เอ็ดเวิร์ด ใน Twilight หน่อย

โรเบิร์ต: ทั้งสองบทบาทเป็นประสบการณ์ที่สนุก แต่ผมยังไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรตอนรับบทเป็น เซดริก ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากเป็นนักแสดงหรือไม่ แต่ Twilight เป็นหนังที่เปลี่ยนชีวิตผม ผมทำให้ผมได้ยืนอยู่บนโลกใบนี้ และผมก็นึกไม่ออกเลยว่าจะใช้ชีวิตยังไงถ้าไม่มีมัน

เทย์เลอร์ ดูเหมือนคุณกำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางหนังแอ็คชั่น ช่วยพูดถึงอนาคตของคุณหลังจาก Twilight หน่อย

เทย์เลอร์: ผมเป็นแฟนหนังแอ็คชั่น แต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่ผมอยากทำในอนาคต สิ่งที่ผมชอบในการแสดงคือการที่ผมได้ท้าทายตัวเอง ผมรัก เจคอบ และแฟรนไชส์ Twilight ก็ได้มอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้กับผมในการทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และการได้ท้าทายตัวเองมากกว่าเดิม ผมรับบทนำในเรื่อง Abduction ซึ่งตัวละครในเรื่องนั้รแตกต่างจาก เจคอบ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ผมรู้สึกแปลก เพราะผมใช้ชีวิตของ เจคอบ มานาน แต่ผมก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นตัวเองในตัวละครอื่น

 

พวกคุณมีฉากโปรดใน Breaking Dawn – Part 1 หรือไม่

บิล: ผมมีเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย

เทย์เลอร์: ปกติทุกภาคผมก็จะมีฉากที่ชอบอยู่ในใจ แต่สำหรับภาคนี้ผมเลือกไม่ถูกเลย มันยากเกินไป (หัวเราะ) เจคอบ มีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย มันเป็นเรื่องลำบากที่จะเลือกจริงๆ

คริสเต็น: ฉันชอบฉากระหว่าง เบลล่า และ ชาร์ลี พ่อของเธอก่อนเข้าพิธีแต่งงาน มันเป็นฉากที่ประทับใจที่สุด

โรเบิร์ต: ผมชอบฉากการเกิดของ เรเนสมี มันเป็นอะไรที่แตกต่างจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในแฟรนไชส์นี้ มันไปไกลเกินกว่าที่ทุกคนคาดถึง พวกเราตัดสินใจที่จะถ่ายทำออกมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับแฟนหนังสือที่สุด มันไม่มีทางเลือกอื่น

 

คุณคิดว่า Breaking Dawn ถือเป็นจุดสิ้นสุดของแฟรนไชส์ Twilight แล้วหรือยัง หรือมันจะมีภาคต่อ

โรเบิร์ต: ผมคิดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับ สเตฟานี่

เทย์เลอร์: ผมเห็นด้วย

บิล: ผมคิดว่านี่คือจุดสิ้นสุดของเรื่องราวระหว่าง เบลล่า และ เอ็ดเวิร์ด ในขณะเดียวกัน Part 2 ก็จะมีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามามากมาย มันก็อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจถ้าเราจะได้เห็นเรื่องราวของพวกเขาในอนาคต

 

คำถามสุดท้าย Twilight ภาคไหนที่เป็นภาคโปรดของพวกคุณ

บิล: สำหรับผม แน่นอนต้อง Breaking Dawn

โรเบิร์ต: Part 1 หรือ Part 2 ล่ะ

บิล: Part 1

โรเบิร์ต: อ้าว แล้วปีหน้าเป็น Part อะไรนะ

บิล: Part 2 สิ (หัวเราะ)

โรเบิร์ต: อ๋อ สำหรับผม ผมชอบ Part 2

เทย์เลอร์: ถ้าพูดถึงหนังสือ ผมชอบ Eclipse แต่ถ้าพูดถึงหนังผมชอบ Part 1 ที่สุด เพราะคุณจะได้เห็นแต่ละตัวละครในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากทุกภาค พวกเราต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั้นคือสิ่งที่ทำให้ผมชอบ

คริสเต็น: หนังสือที่ฉันชอบคือ New Moon แต่ถ้าเป็นหนังฉันชอบ Twilight ภาคแรก ฉันคิดว่า แคทธาลีน ฮาร์ดวิค ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการบุกเบิกโลกของ Twilight และฉันก็ยังชอบ Part 1 มากเช่นกัน ทั้งเรื่องการแต่งงานและการตั้งท้องของ เบลล่า มันเป็นความรู้สึกที่แปลก แต่คุณก็จะเชื่อมต่อกับความรู้สึกนั้นได้

 

 

 

 

ที่มา:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง